ยาลดกรดใช้เพื่อรักษาภาวะที่มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้ปวดท้อง เสียดท้อง และอาหารไม่ย่อย นอกจากนี้ยังใช้เพื่อบรรเทาภาวะที่มีก๊าซมากขึ้น อย่างอาการเรอ ท้องอืด และความอึดอัด / ไม่สบายในกระเพาะอาหาร / ลำไส้ สามารถใช้ร่วมกับยา Simethicone ที่ช่วยสลายก๊าซในลำไส้ อะลูมิเนียมและแมกนีเซียม จะช่วยให้ยาลดกรดทำงานได้รวดเร็วในการลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาลดกรดแบบเหลวมักทำงานได้เร็ว / ดีกว่ายาเม็ดหรือแคปซูล
ยานี้ใช้บรรเทากรดที่มีอยู่ในกระเพาะอาหารเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตกรด ใช้ยานี้เพียงชนิดเดียว หรือใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ที่ลดกระบวนการผลิตกรดก็ได้ (เช่นยาลดกรดไหลย้อน เช่น cimetidine / ranitidine และ ยายับยั้งการหลั่งกรด เช่น omeprazole) หากกำลังใช้ยานี้รักษาด้วยตัวเอง ต้องอ่านคำแนะนำที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ของยาอย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้ยา เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานอย่างเหมาะสม ผลิตภัณฑ์ยาชนิดมักมีชื่อแบรนด์ที่คล้ายคลึงกัน แต่กลับมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ควรปรึกษาเภสัชกรหากมีข้อสงสัยในการใช้งาน
โดยทั่วไปรับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารหลังอาหาร และก่อนนอนโดยพิจารณาตามความจำเป็น ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมดที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ของยา หรือใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ให้ถามแพทย์หรือเภสัชกร
กรณีรับประทานยาลดกรดแบบเม็ดที่ต้องเคี้ยว ให้เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน แล้วดื่มน้ำตามไป 1 แก้ว (8 ออนซ์หรือ 240 มิลลิลิตร)
หากใช้ยานี้ในรูปของเหลว ให้เขย่าขวดให้ดีก่อนรับประทานยาแต่ละครั้ง วัดปริมาณยาอย่างระมัดระวัง ด้วยช้อน / ถ้วยยา ห้ามใช้ช้อนรับประทานอาหารตวง เพราะอาจได้รับปริมาณยาที่ไม่เหมาะสม การแช่เย็นยาอาจช่วยเพิ่มรสชาติให้รับประทานง่ายขึ้น ห้ามแช่แข็ง รูปยาน้ำจะเป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหารที่ดีที่สุด เมื่อไม่มีของเหลวอื่น ๆ เจือปน แต่อาจผสมน้ำเปล่าเล็กน้อย เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
ผลิตภัณฑ์นี้อาจทำปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ (รวมถึง Digoxin, Iron, Pazopanib, Tetracycline Antibiotics, ยาปฏิชีวนะกลุ่มควิโนโลน เช่น Ciprofloxacin) ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้เต็มที่ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้เพื่อป้องกันปัญหานี้
หากภาวะกรดในกระเพาะอาหารไม่หาย หรือแย่ลงหลังจากที่ใช้ยาลดกรดนี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือหากพบว่ามีปัญหาทางการแพทย์ที่รุนแรงขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที กรณีที่ใช้ยานี้เป็นประจำทุกวัน เป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ จึงควรขอคำปรึกษากับแพทย์ทุกครั้ง
ยาลดกรดอาจส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องผูก ท้องเสีย หรือปวดศีรษะ หากอาการนี้ไม่หาย หรือรุนแรงขึ้น ให้แจ้งแพทย์ด้วย
เมื่อแพทย์สั่งจ่ายยาให้ แสดงว่าแพทย์ได้ตัดสินถึงประโยชน์ในการรักษามากกว่าความเสี่ยงที่มาจากผลข้างเคียง แต่ผู้ป่วยหลายคนที่ใช้ยานี้ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง
แมกนีเซียมในผลิตภัณฑ์นี้อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วง การใช้ยาลดกรดร่วมกับอะลูมิเนียมจะช่วยควบคุมอาการท้องร่วงได้ อะลูมิเนียมในผลิตภัณฑ์นี้อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เพื่อลดอาการท้องผูก ให้ดื่มน้ำมาก ๆ และหมั่นออกกำลังกาย อาการท้องร่วงมักเกิดจากผลิตภัณฑ์นี้ได้มากกว่าอาการท้องผูก
ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมจะจับกับฟอสเฟตซึ่งเป็นสารเคมีในร่างกายที่สำคัญต่อลำไส้ ดังนั้นการรับประทานยาอาจทำให้ระดับฟอสเฟตลดลง โดยเฉพาะเมื่อใช้ยานี้ในปริมาณมากและเป็นเวลานาน แจ้งให้แพทย์ทราบทันที ที่พบอาการใด ๆ ที่แสดงว่าฟอสเฟตต่ำ: เบื่ออาหาร เหนื่อยล้าผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากพบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้แก่: เวียนศีรษะ เป็นลม แต่โดยมากจะพบได้ยาก
ไปพบแพทย์ทันที ที่มีผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงที่หายากแต่ร้ายแรง ได้แก่: อุจจาระมีสีดำ/เลือดปน หายใจช้า/ตื้น หัวใจเต้นช้า/ผิดจังหวะ การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ/อารมณ์ (เช่น ความสับสน) การนอนหลับลึก เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ ปวดท้อง / กระเพาะอาหาร อาเจียนสีคล้ายกากกาแฟ
อาการแพ้ที่รุนแรงจากยานี้พบได้ยาก อย่างไรก็ตามควรไปพบแพทย์ทันที หากสังเกตเห็นอาการแพ้ที่รุนแรง ได้แก่ ผื่นคัน / บวม (โดยเฉพาะที่ใบหน้า / ลิ้น / ลำคอ) เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หายใจลำบาก
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่รายการผลข้างเคียงทั้งหมด ดังนั้นหากผู้ป่วยพบผลกระทบอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
ก่อนรับประทานผลิตภัณฑ์นี้ ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากแพ้อลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ หรือแมกนีเซียม หรือซิเมทิโคน หรือมีอาการภูมิแพ้อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์นี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ใช้งาน ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ หรือปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ ให้ปรึกษาเภสัชกร
ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นี้ หากมีปัญหาสุขภาพใด ๆ ต่อไปนี้: ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เกิดภาวะสูญเสียน้ำในร่างกายอย่างรุนแรง (ภาวะขาดน้ำ / ถูกจำกัดของเหลว) ปัญหาเกี่ยวกับไต (รวมถึงนิ่วในไต)
ยานี้อาจมีสารให้ความหวานเป็นส่วนประกอบ หากมีอาการของโรคโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (PKU) หรือมีอาการอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องควบคุมการรับประทานแอสปาร์แตม (หรือฟีนิลอะลานีน) ขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยานี้อย่างปลอดภัย
ยานี้อาจมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ หากเป็นโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยานี้เพื่อความปลอดภัย
กรณีที่ตั้งครรภ์ควรใช้ยาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หารือเกี่ยวกับความเสี่ยงและผลประโยชน์กับแพทย์ก่อนใช้ยา
ยานี้สามารถผ่านจากน้ำนมแม่ไปยังทารก จึงต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในกรณีที่กำลังให้นมบุตร
ต้องพิจารณาวิธีการใช้ยาด้วย
หากกำลังใช้ยานี้ตามคำแนะนำของแพทย์ แพทย์หรือเภสัชกรอาจติดตามผลการรักษาอยู่ ห้ามหยุดหรือเปลี่ยนปริมาณยาเองก่อนที่แพทย์หรือเภสัชกรจะพิจารณาความเหมาะสม
ก่อนใช้ยานี้โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ ที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ / ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบางชนิด เช่น: ผลิตภัณฑ์เสริมฟอสเฟต (เช่นโพแทสเซียมฟอสเฟต) โซเดียมโพลีสไตรีนซัลโฟเนต
ยาลดกรดอาจรบกวนการดูดซึมของยาชนิดอื่น ๆ อย่าลืมตรวจสอบกับเภสัชกรก่อนใช้ยาลดกรดร่วมกับยาอื่น ๆ
รายละเอียดผลกระทบนี้ ไม่ใช่ผลกระทยทั้งหมด ดังนั้นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์นี้ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมดที่กำลังใช้อยู่ รวบรวมรายชื่อยาทั้งหมดเพื่อแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ
หากมีคนใช้ยาเกินขนาดและมีอาการรุนแรง เช่น หายใจไม่ออก หรือหายใจลำบาก ให้รีบบพาไปพบแพทย์ทันที
หมายเหตุ ทำการนัดหมายล่วงหน้ากับแพทย์ได้
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น วิธีลดความเครียด หยุดสูบบุหรี่ การลดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเปลี่ยนแปลงอาหาร (เช่น หลีกเลี่ยงคาเฟอีน อาหารที่มีไขมันสูง หรือเครื่องเทศบางชนิด) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาได้ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อการรักษา
หากใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต่อเนื่อง และลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่รู้ตัว แต่หากใกล้ถึงเวลาของมื้อยาต่อไป ให้ข้ามเป็นการรับประทานยามื้อต่อไปเลย และรับประทานตามปริมาณปกติ ห้ามเพิ่มยาเป็น 2 เท่าของปริมาณที่กำหนด
พิจารณารายละเอียดการจัดเก็บที่พิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ หากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการจัดเก็บ ให้สอบถามจากเภสัชกร ป้องกันผลิตภัณฑ์จากแสงและความชื้น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวอาจเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อปรับรสชาติ แต่ห้ามแช่แข็ง ห้ามเก็บยาไว้ในห้องน้ำ เก็บผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็ก และสัตว์เลี้ยง
ห้ามทิ้งยาลงในชักโครก หรือเททิ้งลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับแนะนำให้ทำเช่นนั้น ทิ้งผลิตภัณฑ์นี้อย่างเหมาะสม เมื่อยาหมดอายุหรือไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกรหรือผู้ให้บริดการกำจัดขยะเกี่ยวกับวิธีทิ้งผลิตภัณฑ์นี้ให้ปลอดภัย
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก