

โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) คือ การกินมากเกินไป ซึ่งบ่อยครั้งจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต เช่น เป็นโรคซึมเศร้า หรือวิตกกังวล
โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง โดยส่วนมากจะพบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น และมีความเชื่อมโยงอย่างมากเกี่ยวกับความมั่นใจในตัวเอง
ผู้ที่เป็นโรคกินไม่หยุดจะมีอาการ กินแล้วก็รู้สึกผิด การกินไม่หยุดเป็นหนทางหนึ่งที่เป็นทางออกสำหรับปัญหาเกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ ซึ่งเป็นโรคที่มาจากสาเหตุที่ซ่อนอยู่ แต่ผู้ป่วยจะหยุดกินไม่ได้
การรักษาจะทำให้ผู้ป่วยหาทางออกได้และควบคุมการกินของตัวเองได้
โรคกินไม่หยุดคืออะไร
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะกินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเทศกาลหรือการเฉลิมฉลองต่าง ๆ แต่นั่นไม่ใช่สัญญาณของโรคกินไม่หยุด
การกินที่มากเกินไปจนเกิดเป็นโรคนั้นต้องเกิดขึ้นเป็นประจำ และผู้ป่วยเริ่มรู้สึกอายและต้องการที่จะปิดบังพฤติกรรมการกินของพวกเขา
ซึ่งมันไม่เหมือนกับการกินเพื่อความสุข มันมีแนวโน้มที่จะเกิดจากการกินเพราะมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้หรือมีปัญหาสุขภาพจิตหรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ
แหล่งข้อมูลนึงกล่าวอีกว่า 40 เปอร์เซนต์หรือมากกว่านั้นของผู้ที่เป็นโรคกินไม่หยุดคือผู้ชาย
อาการของโรคกินไม่หยุด
ผู้ที่เป็นโรคนี้จะรับประทานอาหารจำนวนมากและเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
The American Psychological Association’s (APA) ได้เพิ่มโรคกินไม่หยุดในรายชื่อของโรคทางจิตเวชในปี 2013
ซึ่งมีขอบข่ายดังนี้:
ผู้ที่กลับมากินไม่หยุดและเป็นอย่างต่อเนื่อง
การกินไม่หยุดรวมไปถึงการ:
- การกินไวกว่าปกติ
- การกินจนรู้สึกอิ่มมากไป
- การกินเยอะมากถึงแม้ว่าจะไม่หิว
- การกินเพียงลำพัง เนื่องจากรู้สึกอับอายกับปริมาณที่ตัวเองกิน
- รู้สึกรังเกียจ ซึมเศร้า หรือรู้สึกผิดหลังกิน
การที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคกินไม่หยุดได้ ผู้ป่วยต้องมีอาการกินไม่หยุดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 3 เดือนหรือมากกว่านั้น
การกินไม่หยุดนั้นไม่เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่มากไป การมีแก๊ส ฟาสติ้ง หรือการใช้ยาถ่าย เหมือนโรคล้วงคอ (bulimia nervosa) หรือ โรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa)
ผลลัพท์คือ การมีน้ำหนักตัวที่มากไป ทำให้เกิด โรคอ้วน เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคกินมากไปอาจ:
- รู้สึกว่าควบคุมพฤติกรรมการกินไม่ได้
- พยายามลดน้ำหนักหลายครั้งแต่ทำได้ยาก
- วางแผนที่จะกินเยอะ และซื้ออาหารเผื่อไว้ก่อน
- กักตุนอาหาร
- ซ่อนอาหาร
- มีความรู้สึกตื่นตระหนก ไม่มีสมาธิ วิตกกังวล และ สิ้นหวัง
การกินที่ผิดปกติและสุขภาพจิต
โรคกินไม่หยุดอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพจิตที่ซ่อนอยู่
อาการที่มักจะมากับโรคกินไม่หยุด มีดังนี้:
- โรคเกี่ยวกับอารมณ์และความวิตกกังวล
- โรคซึมเศร้ารุนแรง
- โรคย้ำคิดย้ำทำ
- โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์รุนแรง
- การใช้แอลกอฮอลล์และสารเสพติดอย่างผิด ๆ
- ความผิดปกติทางบุคลิกแบบก้ำกึ่ง
มันสามารถทำให้เกิดความท้าทายทางความรู้สึกที่มากขึ้นอีกได้ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีวงจรของความรู้สึกผิด ดังนี้:
- รู้สึกสิ้นหวังที่เป็นโรคกินไม่หยุดและหาทางออกไม่ได้
- รู้สึกผิด
- พยายามบังคับตัวเอง
- กินเยอะอีกครั้ง
การมีความมั่นใจในตัวเองต่ำเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในโรคที่เกี่ยวกับการกิน รวมไปถึงโรคกินไม่หยุดด้วย การกินไม่หยุดทำให้เกิดการกล่าวโทษตัวเองและไปทำลายการเห็นคุณค่าในตัวเอง
เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์
โรคกินไม่หยุดส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายของผู้ป่วย
ผู้ที่รู้สึกว่ามีปัญหากินมากเกินไปควรพบแพทย์ถึงแม้ว่าน้ำหนักจะอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ตาม
แพทย์อาจทำการเช็คโรคอื่น ๆ ให้ด้วย เช่น โรคหัวใจ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เพราะโรคเหล่านี้สามารถทำให้เกิดโรคกินไม่หยุดได้
ผู้ป่วยมักจะรู้สึกลำบากใจที่จะบอกคนอื่นว่าพวกเขาเป็นโรคกินไม่หยุด รวมไปถึงหมอด้วย อย่างไรก็ตาม การรักษาจะช่วยทั้งการควบคุมการกินไม่ได้และปัญหาทางอารมณืที่ซ่อนอยู่
ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกอับอายและแยกตัวออกจากคนอื่น การหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่ เช่น โรควิตกกังวล และซึมเศร้า สามรถช่วยแก้ปัญหาได้
การรักษาโรคกินไม่หยุด
การรักษามีวัตถุประสงค์ที่จะ:
- ลดความถี่ของการกินไม่หยุด
- ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น
การรักษาโรคกินไม่หยุดนั้นโดยปกติแล้วจำทำพรอมกันในหลาย ๆ ด้าน
การให้คำปรึกษา
นักบำบัดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความรู้สึกผิด ละอาย และไม่มั่นใจในตนเอง เช่นเดียวกับ การวิตกกังวล ความซึมเศร้า และอื่น ๆ
การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT) เป็นวิธีใหม่ที่จะช่วยแก้ปัญหา และผู้ที่ให้คำปรึกษาทางโภชนาการสามารถ่วยให้ผู้ป่วยสร้างพฤติกรรมการกินที่ดีขึ้นได้
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยาต้านซึมเศร้า เช่น Prozac อาจช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับ ซึมเศร้า กลัวสังคม โรคย้ำคิดย้ำทำ ได้ และแพทย์ก็อาจจ่ายยาระงับอาการหิวให้ด้วย
การรักษาอื่น ๆ
กลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือ: การเข้าร่วมกลุ่มสามารถช่วยขจัดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้
การควบคุมน้ำหนัก: ความต้องการหลักของการรักษาคือการหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่ที่ทำให้เกิดโรคนี้ อย่างไรก็ตาม การสร้างนิสัยการกินที่ดีจะทำให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคนี้ไม่ควรลดน้ำหนักในระหว่างการรักษา เพราะจะไปทำให้การรักษาซับซ้อนขึ้นและทำให้อาการแย่ลง
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/binge-eating-disorder/symptoms-causes/syc-20353627
- https://www.healthline.com/nutrition/binge-eating-disorder
- https://www.nhs.uk/conditions/binge-eating/
- https://www.webmd.com/mental-health/eating-disorders/binge-eating-disorder/why-binge-eating
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก