ชาไข่มุก (Bubble Tea)

ชาไข่มุก (Bubble Tea)

25.06
4872
0

ชานมไข่มุกคืออะไร

ชานมไข่มุกในปัจจุบันคือการปรับแต่งส่วนผสมให้เข้ากับความต้องการของลูกค้ารักสุขภาพ เช่น การใช้หญ้าหวาน น้ำผึ้ง แทนน้ำตาล การใช้ไซรัปที่มีแคลอรี่น้อยลง การปรับระดับความหวานตามที่ลูกค้าต้องการ

ชาไข่มุกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ชารสผลไม้ และ ชานม แต่ก็ยังมีบางร้านค้านำเสนอเมนูแบบผสมเป็น ชานมรสผลไม้ ในชานมส่วนใหญ่ มักใช้นมผง หรือ ครีมเทียม มีบางสูตรก็ใช้นมสดมาแทนได้เหมือนกัน หรืออาจจะเป็นสูตรน้ำผลไม้ปั่น ไอศกรีมปั่น เพิ่มไข่มุก 

การรับประทานชานมไข่มุกนั้นก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคอ้วนและโรคเบาหวาน  เนื่องจากชาไข่มุกมีส่วนผสมปริมาณมากของน้ำตาล จึงก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ท้องผูก หรือ นอนไม่หลับ เป็นต้น

รู้หรือไม่ว่าชานมไข่มุก 1 แก้ว นั้นมีน้ำเชื่อม ครีมเทียม และไข่มุกเพิ่มขึ้นมา โดยพวกน้ำเชื่อมและครีมเทียมเหล่านี้นี่แหละที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

ไข่มุกทำมาจากอะไร

ไช่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุก ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเอยู่ในกลุ่มอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี พลังงานที่ได้จากการดื่มชาน้ำไข่มุก จะเป็นพลังงานที่ใกล้เคียงกับการกินก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ 1 ชามเลยทีเดียว จะให้พลังงานอยู่ที่ 326 กิโลแคลอรี 

(มีคาร์โบไฮเดรต 41 กรัม  มีไขมัน 8 กรัม และมีโปรตีน 21 กรัม) หรือปริมาณน้ำตาลที่ได้รับจากชานมไข่มุก เท่ากับ ข้าวสวย ประมาณ 3-4 ทัพพี

นอกจากนี้ครีมเทียมที่ใส่ลงในชานมไข่มุก ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวสูง การบริโภคกรดไขมันอิ่มตัวเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

การรับประทานชานมไข่มุกบ่อยๆ อาจนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน 

โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ควรรับประทานชานมไข่มุกที่เหมาะสม โดยการคำนึงถึงค่าพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวันด้วย ควรลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ในชานมไข่มุก และหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมลงไปในชาไข่มุก เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถลดอันตรายที่เกิดจากการรับประทานชานมไข่มุกได้ 

ชานมไข่มุก หลายๆ คนคงทราบว่าชานมไข่มุก มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก และบางแก้วมีน้ำตาลสูงมาก จากการสำรวจปริมาณน้ำตาลในชานมไข่มุก 25 แก้ว พบว่ามีน้ำตาลเฉลี่ยประมาณ 10.5 ช้อนชา ซึ่งเกินกว่าปริมาณน้ำตาลที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน  การกินชานมไข่มุกเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง

กินชานมไข่มุกอย่างไรให้ปลอดภัย

  • ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้นควรสั่งแก้วเล็ก เพื่อกำหนดปริมาณการรับประทานไม่ให้มากจนเกินไป
  • ลดปริมาณน้ำตาล เพื่อลดความเลี่ยงต่อสุขภาพ
  • ไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกินไป
  • หลังจากกินชานมไข่มุกไปแล้ว ควรออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป เพื่อเผาพลาญพลังงานที่ได้รับมา 
  • ไม่กินไข่มุกมากเกินไป ควรกินไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน

การชงชาเราใช้ชาต่างประเภทกัน เช่น ชาเขียว ชาดำชนิดต่างๆ ชาที่นิยมรับประทานคือ ชาอู่หลง และเอิร์ลเกรย์ ส่วนชามะลิก็เป็นชาที่นิยมกันอยู่แล้ว

Bubble Tea

วิธีการชงด้วยชาดำครึ่งหนึ่ง และกาแฟครึ่งหนึ่ง การชงแบบนี้ส่ส่วนมากก็นิยมผสมนมลงไปด้วย เพื่อความเข้มข้นของชา หรือถ้าเป็นชาที่ชงใหม่ ๆ จะได้เป็นรสชาติดี ของชาหอมอ่อน ๆ และนุ่มละมุนคอ 

นมที่ผสมลงไปนั้นไม่ได้เป็นส่วนผสมหลัก แต่ก็พบว่าหลายสูตรใส่ผสมลงไปด้วย หรืออาจจะใช้ครีมเทียมเป็นส่วนผสมที่ใช้แทนนมได้  เพราะชาวเอเชียตะวันออกส่วนมากแพ้น้ำตาลแล็คโตสในนม อีกเหตุผลก็คือ ครึมเทียมราคาถูกกว่า หาได้ง่ายกว่า วันหมดอายุก็นานกว่านมแท้ ๆ  

ในบางประเทศ มีการใช้นมถั่วเหลืองมาผสมแทน สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มนมวัวหรือแพ้นมวัว ส่วนผสมที่แตกต่างกัน ก็อาจทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติที่แตกต่างกันด้วย

บางสูตรก็ใส่อย่างอื่นลงไปในชาไข่มุก ที่นิยมกัน คือ ผลไม้ต่าง ๆ เช่น สตอเบอร์รี่ แอปเปิ้ลเขียว เสาวรส มะม่วง เลม่อน แตงโม องุ่น ลิ้นจี่ ลูกพีช สัปปะรด แคนตาลูป ฮั่นนี่ดิว กล้วย อโวคาโด มะพร้าว กีวี และ ขนุน ส่วนผสมที่ใส่แบบอื่นๆที่ไม่ใช่ผลไม้ เช่น เผือก พุดดิ้ง ช็อคโกแลต กาแฟ มอคค่า บาร์เล่ย์  อัลมอนด์  กลิ่นกุหลาบ และคาราเมล ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบแบบไหน เนื่องจากกรดในน้ำผลไม้จะทำให้นมแข็งตัวตกตะกอน

ชาไข่มุกบางสูตรนำส่วนผสมแต่ละอย่างมาใส่รวมกัน หลาย ๆ ร้านชา มีเมนูชาให้ผสมมากมายเพื่อให้ลูกค้าเลือก

        ไข่มุกเกิดจากกระบวนการแปรรูป โดยการนำแป้งมันสำปะหลังมาทำให้ร้อน เคี่ยวกับน้ำตาล เม็ดมันสำปะหลัง ในชาไข่มุกให้ความรู้สึกเคี้ยวหนึบหนับ ในหลาย ๆ สูตรมีการเพิ่มส่วนผสมบางอย่างเข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเครื่องดื่ม เช่น ไข่มุกสีเขียว และมีการเพิ่มรสชาเขียวเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้เคี้ยวง่ายกว่าไข่มุกแบบเดิม เพื่อเพื่มสีสรรและรสชาติต่างๆ เช่น ใส่วุ้นมะพร้าว บุก มะม่วง ทำให้เคี้ยวกรุบกรอบมากกว่าชาไขมุกแบบเดิม ส่วนเครื่องอื่นๆที่ให้ราด ช่วยเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดี ก็จะมีการใส่ ว่านหางจรเข้ สาคู เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับชาไข่มุก

ส่วนผสมไข่มุก

  • ไข่มุก ยี่ห้อใดก็ได้
  • น้ำเปล่า
  • น้ำตาลทรายแดง

วิธีทำไข่มุก 

  • นำน้ำเปล่าตั้งไฟ พอน้ำเริ่มเดือดให้ใส่ไข่มุกลงไป
  • ตั้งไฟปานกลาง ค่อนข้างอ่อน ต้มเป็นเวลา 35 นาที แล้วปิดไฟ แต่พักไข่มุกไว้ในหม้อต่อเป็นเวลา 30 นาที
  • พอครบเวลา 30 นาทีแล้ว นำไข่มุกไปล้างด้วยน้ำที่สะอาด 1-2 ครั้ง แล้วจึงนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงเพื่อไม่ให้ไข่มุกเกาะกันเป็นก้อน
Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *