อาการแพ้อาหาร (Food allergies) คือการที่ระบบภูมิคุ้มกันเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อโปรตีนบางชนิดในอาหาร เสมือนเป็นเชื้อโรคที่เป็นอันตราย อย่างเช่นแบคทีเรีย ปรสิต หรือไวรัส
สาเหตุของอาการอาหาร
อาการภูมิแพ้อาหารมักพบได้ในอาหารกลุ่มใหญ่ 8 ชนิดถึง 90% ได้แก่ :
-
ไข่
-
ปลา
-
นม
-
ถั่วจากต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ เฮเซลนัท วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วพิสตาชิโอ
-
ถั่วลิสงหรือถั่วที่ฝักอยู่ในดิน
-
สัตว์น้ำที่มีเปลือก ได้แก่ กุ้ง กุ้งล็อบสเตอร์ และปู
-
ถั่วเหลือง
-
ข้าวสาลี
สารก่อภูมิแพ้ในอาหารที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก คือนม ไข่ และถั่วลิสง โดยเฉพาะนม ไข่ ถั่วเหลือง และข้าวสาลีพบในเด็กมากถึง 25% และมีแนวโน้มเพิ่มมากกว่าเด็กที่มีอาการแพ้ถั่วลิสง
ประเทศในทวีปยุโรปมีการจัดอาการก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ งา เซเลอรี่ ลูปิน (พืชตระกูลถั่ว) และมัสตาร์ด ทั้งนี้ นม ถั่ว และอาหารทะเล เป็นอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย
ระบบภูมิคุ้มกันในผู้เป็นภูมิแพ้อาหารจะตอบสนองต่อโปรตีนในอาหารเสมือนเป็นสารอันตรายที่อาจก่อให้เกิดโรค ร่างกายตอบสนองโดยการผลิตแอนติบอดี IgE เพื่อโจมตีโปรตีนนี้ เมื่อผู้ป่วยกินอาหารนั้นเข้าไปจะเกิดปฏิกิริยาทันที
ปัจจัยเสี่ยงต่ออาการภูมิแพ้อาหาร
ประวัติครอบครัว: การแพ้อาหารสามารถสืบทอดทางพันธุกรรม เช่นเดียวกับโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ
อาการภูมิแพ้อื่น ๆ : เด็กที่มีอาการแพ้อย่างใดอย่างหนึ่งมักมีอาการภูมิแพ้อาหารร่วมด้วย
การรับสารภูมิแพ้ครั้งแรก: การวิจัยพบว่าทารกที่คลอดโดยการผ่าตัดคลอดอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการแพ้อาหาร โดยเฉพาะการแพ้ ถั่วลิสง การงดอาหารที่ก่อภูมิแพ้ในช่วงนี้จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้อาหารได้
แบคทีเรียในกระเพาะอาหาร: งานวิจัยแสดงว่าผู้ที่มีอาการภูมิแพ้มักมีการเปลี่ยนแปลงแบคทีเรียในลำไส้ โดยเฉพาะระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวสูงขึ้นและระดับเชื้อ Clostridiales กลับลดลง อยู่ระหว่างการทดสอบว่าแบคทีเรียในลำไส้สามารถรักษาหรือป้องกันอาการภูมิแพ้อาหารได้หรือไม่
แนวโน้มโรคภูมิแพ้อาหารเริ่มสูงขึ้น ซึ่งนักวิจัยมีข้อสันนิษฐานว่าเกิดจาก
อาหาร: พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เช่นการบริโภคไขมันสัตว์ลดลงแต่เพิ่มการบริโภคไขมันพืชแทน
สารต้านอนุมูลอิสระ: การบริโภคผลไม้และผักสดลดลง ซึ่งอาหารเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายของเซลล์ได้
วิตามินดี: อาการภูมิแพ้อาหารเพิ่มมากในประชากรที่อาศัยในประเทศที่มีแสงแดดน้อย ทำให้สร้างวิตามินดีได้น้อย คาดว่าวิตามินดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้อาหาร
การรับภูมิต้านทางตั้งแต่เด็ก: มีข้อสังเกตว่าเด็กที่โตในสภาพที่ปลอดเชื้อ และไม่มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคเลย และมักใช้ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรียปริมาณสูงขึ้น มักเป็นภูมิแพ้อาหาร
การวินิจฉัยอาการแพ้อาหาร
การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้อาหารแพทย์ต้องถามผู้ป่วยในข้อมูลที่จำเป็น:
-
อาการที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง
-
ใช้เวลานานแค่ไหนจึงเริ่มเกิดอาการ
-
อาหารชนิดใดที่ทำให้แพ้
-
อาหารปรุงสุกชนิดใดที่ทำให้แพ้
-
แหล่งที่มาของอาหาร
แพทย์มักพิจารณาร่วมกับอาการภูมิแพ้สิ่งอื่น ๆ อย่างโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล หรือโรคหอบหืด และประวัติครอบครัวของผู้ป่วย
การทดสอบต่อไปนี้แพทย์จะใช้เพื่อวินิจฉัยอาการแพ้อาหาร:
การทดสอบทิ่ผิวหนัง
แพทย์จะนำอาหารที่เจือจางแล้ว มาเจาะลงบนผิวหนังที่แขนเบา ๆ เพื่อสังเกตปฏิกิริยา อย่างอาการคัน บวม หรือแดง แสดงว่าผู้รับการทดสอบอาจมีอาการแพ้ และอาจต้องรับการทดสอบซ้ำหลายครั้ง
การตรวจเลือด
การทดสอบเพื่อหาแอนติบอดีที่จำเพาะกับโปรตีนจากอาหารบางชนิด เพื่อบ่งบอกอาการแพ้อาหารนั้น ๆ
บันทึกการรับประทานอาหาร
ผู้ป่วยควรบันทึกอาหารทุกอย่างที่กิน และอธิบายอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การทดสอบแบบไม่ให้ผู้ป่วยรู้ตัวเพื่อลดอาการที่เกิดจากความรู้สึก: เป็นวิธีการทดสอบที่ดีที่สุดมีความแม่นยำสูง แพทย์จะให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารในปริมาณควบคุมเพื่อติดตามอาการโดยดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นวิธีแยกอาการป่วยที่เกิดจากการคิดไปเอง
โรคภูมิแพ้กับอาการแพ้อาหาร
ผู้เชี่ยวชาญอาจต้องใช้เวลาในแยกอาการทั้ง 2 พอสมควร
กรณีโรคภูมิแพ้อาหารนั้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะตอบสนองต่ออาหาร โดยการผลิตแอนติบอดีที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับอาการ (IgE) แต่ในกรณีแพ้อาหารภูมิคุ้มกันชนิดนี้จะไม่ทำงาน
อาการแพ้อาหารยังมักใช้เวลาในการเกิดปฏิกิริยานานกว่า อาการแพ้อาหารยังมาจากสารอื่น ๆ นอกจากโปรตีน ทั้งสารเคมี หรือคาร์โบไฮเดรตก็ได้ อาจเกิดจากการขาดเอนไซม์ หรือความสามารถในการย่อยอาหารในลำไส้ไม่ดี
ภูมิแพ้อาหารอาการจะเกิดทันที แม้รับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันได้ แต่อาการแพ้อาหาร ผู้ป่วยยังรับประทานอาหารชนิดนั้นในปริมาณไม่มากได้
โรคเซลิแอคได้รับการยกเว้นว่าไม่ใช่ภูมิแพ้อาหาร แม้ว่าร่างกายจะทำปฏิกิริยากับกลูเตนปริมาณเล็กน้อย เพราะแพทย์พิจารณาว่าโรคนี้เป็นภาวะการแพ้ภูมิตัวเองมากกว่า
อาการของโรคที่มักสับสนกับโรคภูมิแพ้อาหาร :
ภาวะการขาดเอนไซม์
บุคคลที่ไม่มีเอนไซม์หรือมีไม่เพียงพอต่อการย่อยอาหาร ตัวอย่างเช่นกรณีแพ้แลคโตสที่ทำให้เกิดท้องร่วง ก๊าซในกระเพาะ ตะคริว และท้องอืดเนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์แลคเตส
โรคลำไส้แปรปรวน (IBS)
โรคลำไส้แปรปรวน เป็นภาวะระยะยาวของอาการท้องเสีย ท้องผูก และปวดท้อง ผู้เป็นโรคลำไส้แปรปรวนมักแพ้คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการหมักแล้ว
ความไวต่อสารเคมีอาหาร
ตัวกระตุ้นคือซัลไฟต์ที่ใช้ถนอมผลไม้แห้ง หรืออาหารกระป๋อง
ปัจจัยทางจิตวิทยา
เกิดจากความไม่สบายที่เกิดกับอาหารบางประเภท โดยไม่ทราบสาเหตุ
โรคเซลิแอค
เมื่อรับประทานกลูเตนผู้ที่ระบบภูมิต้านทานผิดปกติ จะเกิดอาการท้องร่วง ปวดท้อง และท้องอืด แต่บางรายก็อาจไม่มีอาการ
อาการของโรคภูมิแพ้อาหาร
อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยและรุนแรงในแต่ละคนแตกต่างกัน และมีอาการที่แตกต่างกันได้ แต่อาการที่พบบ่อยคือ:
-
รู้สึกเสียวซ่าในปาก
-
รู้สึกแสบร้อนในปากและริมฝีปาก
-
ใบหน้าบวม
-
ผื่นแดงที่ผิวหนัง หรือลมพิษ
-
หายใจไม่ออก
-
คลื่นไส้หรืออาเจียน
-
ท้องร่วง
-
น้ำมูกไหล
-
น้ำตาชื้น
-
อาการต่าง ๆ เหมือนโรคภูมิแพ้
Anaphylaxis
คืออาการแพ้อย่างรุนแรงและมีอาการอื่น ๆ ร่วม โดยปกติเกิดทันทีที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการแสดงอาการ
ลักษณะอาการและปฏิกิริยาของการแพ้อาหารอย่างรุนแรงนั้น รวมถึง:
-
ความดันเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว
-
อาหารหวาดวิตก หรือเป็นกังวล
-
อาการคัน ระคายคอ
-
ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่นหายใจไม่ค่อยออก และมีแนวโน้มว่าอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ
-
อาการคันที่ผิวหนัง หรือเป็นผื่นค่อย ๆ ลามไปตามร่างกายอย่างรวดเร็ว
-
จาม น้ำมูกไหล
-
น้ำมูก และน้ำตาไหล
-
อาการบวมที่คอ ริมฝีปาก ใบหน้าและปากอย่างรวดเร็ว
-
สลบไม่ได้สติ
การรักษาอาการภูมิแพ้อาหาร
วิธีรักษาภูมิแพ้อาหารคือหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา การอ่านฉลากอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าต่าง ๆ ที่มีโอกาสปนเปื้อนสารก่อภูมิแพ้ในอาหารได้
การรักษาด้วยยา ปัจจุบันมีเพียงยา Palforzia ที่ใช้รักษาอาการแพ้ถั่วลิสงที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานได้
การกำจัดอาหารก่อภูมิแพ้นั้นรวมถึงการป้องกันไม่ให้สูดดม สัมผัสหรือรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนสารก่อภูมิแพ้เลย โดยเฉพาะการปนเปื้อนจากภาชนะ
การรักษาด้วยยาในกรณีฉุกเฉิน
ยาแก้แพ้
มักอยู่ในรูปของเจล ของเหลวหรือยาเม็ด ใช้ได้ดีในผู้ที่มีอาการแพ้อาหารเล็กน้อยหรือปานกลาง ตัวอย่างการรักษาอาการแพ้ฮิสตามีนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ
อะดรีนาลีน (Epinephrine)
เป็นการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิแพ้ อะดรีนาลีนช่วยให้ความดันโลหิตสูงขึ้นโดยการหดตัวของหลอดเลือด จึงช่วยให้ทางเดินหายใจดีขึ้น ผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรงขึงควรพกยานี้ติดตัว
สรุปภาพรวมอาการภูมิแพ้อาหาร
การแพ้อาหารมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก โดยอาการแพ้อาหารที่พบบ่อยคือไข่ นม และถั่วลิสง อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง ยังไม่พบวิธีการรักษาภูมิแพ้อาหารแบบดั้งเดิม แต่การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อภูมิแพ้จะช่วยไม่ให้เจ็บป่วยได้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก