ประโยชน์ของฟักทอง (Health Benefits of Pumpkin)

ประโยชน์ของฟักทอง (Health Benefits of Pumpkin)

25.09
304
0

ฟักทอง

ฟักทอง (Pumpkin) จัดอยู่ในสกุล Cucurbita อยู่ในวงศ์แตง (Cucurbitaceae) มีวิทยาศาสตร์ คือ Cucurbita maxima ‘Kabocha Group’ หรือ Cucurbita moschata Duchesne ฟักทองเป็นพืชชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวขรุขระ ผลอ่อนมีผิวด้านนอกสีเขียวเมื่อแก่จัดผิวจะมีสีเขียวผสมสีเหลืองอมส้ม เนื้อในมีสีเหลือง เมล็ดมีสีขาวลักษณะแบน ๆ ซึ่งฟักทองมีถิ่นกำเนิดในอเมริกา สามารถปลูกได้ทั้งในเขตหนาวและเขตร้อน แบ่งออกเป็น 2 ตระกูล คือ ตระกูลฟักทองอเมริกัน (Pumpkin) ผลใหญ่เนื้อนุ่มและยุ่ย และตระกูลสควอช ( Squash ) เนื้อแน่นดูมีน้ำหนัก ได้แก่ ฟักทองไทย ซึ่งมีผิวขรุขระเล็กน้อย เปลือกแข็ง เนื้อข้างในมีสีเหลืองสดตามธรรมชาติ และฟักทองญี่ปุ่น ฟักทองที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ฟักทองไทย พันธุ์คิงคอง พันธุ์ผลมะพร้าว พันธุ์คางคก พันธุ์ญี่ปุ่น พันธุ์เนื้อสีส้ม เนื่องจากฟักทองเป็นพืชที่อุดมด้วยสารอาหารและแร่ธาตุ ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ มีใยอาหารหรือไฟเบอร์ที่ดี มีฤทธิ์อุ่นจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีกระเพาะร้อน สามารถใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง

ลักษณะของ Pumpkin

ลักษณะของต้นฟักทองเป็นลำต้นอวบน้ำ เถาของฟักทองจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีมือสำหรับยึดเกาะดิน ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยม มีขนที่ใบทั้งสองด้าน ดอกเป็นรูปกระดิ่งมีสีเหลือง ผลฟักทองมีแบบเกือบกลมและแบบกลมแป้น ผิวมีขรุขระเล็กน้อย เนื้อดิบจะแข็ง เนื้อสุกจะอ่อนขึ้นและยุ่ย

สารอาหารในส่วนต่างๆ ของ Pumpkin

  • ใบอ่อนของฟักทอง มีวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส
  • เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส แป้ง เบต้าแคโรทีน 
  • ดอกฟักทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส
  • เมล็ดฟักทอง มีวิตามิน ฟอสฟอรัส แป้ง โปรตีน คิวเคอร์บิติน กรดอะมิโนบางชนิด

สารอาหารใน Pumpkin

  • แคลเซียม
  • ฟอสฟอรัส
  • แมงกานีส
  • โซเดียม
  • โพแทสเซียม
  • ธาตุเหล็ก
  • ซิงค์ 
  • วิตามินเอ
  • วิตามินบี1
  • วิตามินบี2
  • วิตามินบี3
  • วิตามินบี5
  • วิตามินบี6
  • วิตามินซี
  • วิตามินอี
  • วิตามินเค
  • แร่ธาตุอื่น ๆ

ประโยชน์ของ Pumpkin

ประโยชน์ของเปลือกฟักทอง

  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
  • สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป
  • ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิต
  • บำรุงตับ
  • บำรุงไต
  • ช่วยรักษาบำรุงสายตา
  • ช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของเนื้อสีเหลืองของฟักทอง

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
  • บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่าและเอว
  • ช่วยต้านความชรา
  • ช่วยป้องกันโรคผิวหนัง
  • บำรุงผิวพรรณ
  • ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
  • สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง สามารถทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
  • ช่วยบำรุงเลือด
  • ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ
  • ช่วยในการลดน้ำหนัก มีกากใยอาหารสูง มีไขมันน้อย มีน้ำตาลน้อย
  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • มีส่วนช่วยในการขับถ่าย
  • ใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน

ประโยชน์ของเยื่อกลางผลของฟักทอง

  • นำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวดหรืออักเสบ

ประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง

  • มีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืด
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • ช่วยป้องกันการโรคนิ่ว
  • น้ำมันจากเมล็ดฟักทองสามารถบำรุงระบบประสาท
  • ช่วยทำให้อารมณ์ดี
  • ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น
  • ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ
  • ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ประโยชน์ของรากฟักทอง

  • แก้อาการไอ โดยนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม
  • ช่วยบำรุงร่างกาย
  • มีฤทธิ์ถอนพิษของฝิ่น
  • ช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย

ใครไม่ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่มาก

  • ผู้ที่มีอาการกระหายน้ำมาก
  • ผู้ที่ปัสสาวะมีสีเหลือง
  • ผู้ที่ท้องผูก
  • ผู้ที่มีแผลในช่องปาก
  • มีอาการเหงือกบวมเป็นประจำ

หากรับประทานฟักทองในปริมาณที่มากเกินไปจะมีอาการอะไร

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *