

ฟักทอง
ฟักทอง (Pumpkin) จัดอยู่ในสกุล Cucurbita อยู่ในวงศ์แตง (Cucurbitaceae) มีวิทยาศาสตร์ คือ Cucurbita maxima ‘Kabocha Group’ หรือ Cucurbita moschata Duchesne ฟักทองเป็นพืชชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวขรุขระ ผลอ่อนมีผิวด้านนอกสีเขียวเมื่อแก่จัดผิวจะมีสีเขียวผสมสีเหลืองอมส้ม เนื้อในมีสีเหลือง เมล็ดมีสีขาวลักษณะแบน ๆ ซึ่งฟักทองมีถิ่นกำเนิดในอเมริกา สามารถปลูกได้ทั้งในเขตหนาวและเขตร้อน แบ่งออกเป็น 2 ตระกูล คือ ตระกูลฟักทองอเมริกัน (Pumpkin) ผลใหญ่เนื้อนุ่มและยุ่ย และตระกูลสควอช ( Squash ) เนื้อแน่นดูมีน้ำหนัก ได้แก่ ฟักทองไทย ซึ่งมีผิวขรุขระเล็กน้อย เปลือกแข็ง เนื้อข้างในมีสีเหลืองสดตามธรรมชาติ และฟักทองญี่ปุ่น ฟักทองที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ฟักทองไทย พันธุ์คิงคอง พันธุ์ผลมะพร้าว พันธุ์คางคก พันธุ์ญี่ปุ่น พันธุ์เนื้อสีส้ม เนื่องจากฟักทองเป็นพืชที่อุดมด้วยสารอาหารและแร่ธาตุ ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ มีใยอาหารหรือไฟเบอร์ที่ดี มีฤทธิ์อุ่นจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีกระเพาะร้อน สามารถใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง
ลักษณะของ Pumpkin
ลักษณะของต้นฟักทองเป็นลำต้นอวบน้ำ เถาของฟักทองจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีมือสำหรับยึดเกาะดิน ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวรูปห้าเหลี่ยม มีขนที่ใบทั้งสองด้าน ดอกเป็นรูปกระดิ่งมีสีเหลือง ผลฟักทองมีแบบเกือบกลมและแบบกลมแป้น ผิวมีขรุขระเล็กน้อย เนื้อดิบจะแข็ง เนื้อสุกจะอ่อนขึ้นและยุ่ย
สารอาหารในส่วนต่างๆ ของ Pumpkin
- ใบอ่อนของฟักทอง มีวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส
- เนื้อฟักทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส แป้ง เบต้าแคโรทีน
- ดอกฟักทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส
- เมล็ดฟักทอง มีวิตามิน ฟอสฟอรัส แป้ง โปรตีน คิวเคอร์บิติน กรดอะมิโนบางชนิด
สารอาหารใน Pumpkin
- แคลเซียม
- ฟอสฟอรัส
- แมงกานีส
- โซเดียม
- โพแทสเซียม
- ธาตุเหล็ก
- ซิงค์
- วิตามินเอ
- วิตามินบี1
- วิตามินบี2
- วิตามินบี3
- วิตามินบี5
- วิตามินบี6
- วิตามินซี
- วิตามินอี
- วิตามินเค
- แร่ธาตุอื่น ๆ
ประโยชน์ของ Pumpkin
ประโยชน์ของเปลือกฟักทอง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
- สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป
- ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิต
- บำรุงตับ
- บำรุงไต
- ช่วยรักษาบำรุงสายตา
- ช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของเนื้อสีเหลืองของฟักทอง
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่าและเอว
- ช่วยต้านความชรา
- ช่วยป้องกันโรคผิวหนัง
- บำรุงผิวพรรณ
- ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
- สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง สามารถทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง
- ช่วยบำรุงเลือด
- ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ
- ช่วยในการลดน้ำหนัก มีกากใยอาหารสูง มีไขมันน้อย มีน้ำตาลน้อย
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
- มีส่วนช่วยในการขับถ่าย
- ใช้ประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
ประโยชน์ของเยื่อกลางผลของฟักทอง
- นำมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวดหรืออักเสบ
ประโยชน์ของเมล็ดฟักทอง
- มีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืด
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- ช่วยป้องกันการโรคนิ่ว
- น้ำมันจากเมล็ดฟักทองสามารถบำรุงระบบประสาท
- ช่วยทำให้อารมณ์ดี
- ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น
- ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ
- ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ประโยชน์ของรากฟักทอง
- แก้อาการไอ โดยนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม
- ช่วยบำรุงร่างกาย
- มีฤทธิ์ถอนพิษของฝิ่น
- ช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย
ใครไม่ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่มาก
- ผู้ที่มีอาการกระหายน้ำมาก
- ผู้ที่ปัสสาวะมีสีเหลือง
- ผู้ที่ท้องผูก
- ผู้ที่มีแผลในช่องปาก
- มีอาการเหงือกบวมเป็นประจำ
หากรับประทานฟักทองในปริมาณที่มากเกินไปจะมีอาการอะไร
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก