ภาวะตับโต (Hepatonegaly) คือ ภาวะที่ตับมีขนาดใหญ่กว่าปกติ อาการของโรคมักมาจากโรคอื่นมากกว่าอาการจากตับโตเอง ในบางครั้งภาวะตับโตอาจมีอาการร่วมกับโรคอื่นๆได้
ตับเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย มีหน้าที่ขับสารพิษออกจากเลือด เป็นอวัยวะหนึ่งของระบบการย่อยอาหาร และช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนและคอเรสเตอรอล นอกจากนี้ตับยังทำหน้าที่ที่จำเป็นอีกมากกว่า 500 อย่าง
สาเหตุของภาวะตับโต
สาเหตุของภาวะตับโตมีหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจาก
-
ไวรัสตับอักเสบ: ไวรัสตับอักเสบคือโรคที่ตับเกิดการอักเสบ มาจากการติดเชื้อไวรัสหรือตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์มาก โรคอาจเกิดระยะสั้น (ชนิดเฉียบพลัน) หรือระยะยาว (ชนิดเรื้อรัง)
-
โรคตับจากแอลกอฮอล์ (ALD) :การบริโภคแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปสามารถก่อให้เกิดเซลล์ไขมันสะสมในตับ แพทย์เรียกภาวะนี้ว่าโรคไขมันคั่งสะสมในตับ โรคนี้จะไปแทรกแซงความสามารถของตับในการทำหน้าที่ที่สำคัญ ในรายที่เป็นโรครุนแรง โรค ALD อาจนำไปสู่ภาวะตับเป็นแผลเป็นขั้นรุนแรง หรือภาวะตับแข็ง
-
ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (NAFLD) โรคนี้เป็นโรคลักษณะเดียวกับโรคไขมันคั่งสะสมในตับและสัมพันธ์กับการทำงานผิดปกติของตับ ต่างจากโรคตับจากแอลกอฮอล์ ชนิดนี้ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป แต่โรคนี้เกิดร่วมกับโรคอื่นๆเช่นโรคเบาหวานหรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันและคอลเลสเตอรอลสูง
-
โรคมะเร็งตับ: โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในตับช่วงแรกรู้จักกันดีว่าเป็นมะเร็งตับระยะปฐมภูมิ เมื่อโรคขยายจากตับไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายเราเรียกว่ามะเร็งตับระยะทุติยภูมิ
-
โรคหัวใจล้มเหลว: หลอดเลือดดำพอร์ทัลตับคือหลอดเลือดที่นำเลือดไปสู่ตับ ภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดมาจากการไหลเวียนโลหิตมีปัญหา ซึ่งเกิดขึ้นจากแรงดันของในหลอดเลือดดำพอร์ทัลตับเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปสามารถนำไปสู่การขยายโตขึ้นของตับ แพทย์บางท่านอาจอ้างอิงโรคตับจากโรคหัวใจว่าเป็นโรค cardiac liver
อาการตับโต
ภาวะตับโต คือ โรคที่ตับมีขนาดใหญ่ขึ้น อาการเบื้องต้นของโรคที่เกิดขึ้นมักไม่ได้มาจากตัวโรคเอง
เมื่อตับมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกแน่นบริเวณด้านขวาของร่างกาย หรืออาจรู้สึกไม่สบายตัว ผู้ที่ตับโตอาการอาจจะมีปัญหาดังต่อไปนี้
โรคไขมันคั่งสะสมในตับ
โรคไขมันคั่งสะสมในตับ คือ ภาวะที่มีการสะสมของไขมันในตับพบได้ทั่วไป ปกติแล้วตับไม่ได้เป็นที่เก็บไขมัน แต่ปัจจัยดังต่อไปนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดได้
-
ไขมันในเลือดสูง
-
มีภาวะต้านอินซูลิน
-
โรคเบาหวานชนิดที่ 2
-
กลุ่มความผิดปกติของพฤติกรรมการดื่มสุรา
-
โรคตับอักเสบซี (Hepatitis C)
ภาวะคั่งไขมันสะสมในตับมีอยู่ 4 ระดับ แต่ละระดับขึ้นอยู่เปอร์เซ็นต์ของเซลล์ไขมันที่ตับ
แบ่งออกเป็นระดับดังต่อไปนี้:
-
ระดับ 0: มีปริมาณเซลล์ไขมันประกอบรวม 0-5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมของตับทั้งหมด
-
ระดับ 1 (เล็กน้อย) มีปริมาณเซลล์ไขมันประกอบรวม 5-33 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมของตับทั้งหมด
-
ระดับ 2 (ปานกลาง) มีปริมาณเซลล์ไขมันประกอบรวม 34-66 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมของตับทั้งหมด
-
ระดับ 3 (รุนแรง) มีปริมาณเซลล์ไขมันประกอบมากกว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมของตับทั้งหมด
การวินิจฉัยโรคตับโต
แพทย์จะวินิจฉัยด้วยวิธีการเหล่านี้
- ซักประวัติโรคประจำตัว
- จับหรือเคาะเบาๆที่หน้าท้อง เพื่อดูขนาดและความแข็งของตับและลองตรวจสอบว่ามีความอ่อนไหวต่อการสัมผัสหรือไม่
- สั่งตรวจสอบเลือดเพื่อมองหาภาวะการติดเชื้อและเพื่อเช็คระดับเอมไซม์ตับ
- สั่งตรวจสอบทางภาพถ่ายเช่น ซีทีสแกน อัลตราซาว์น หรือทำMRI
- นำตัวอย่างหรือตัดชิ้นเนื้อตับส่งตรวจเพื่อนำมาวิเคราะ
การรักษาโรคตับโต
การรักษาโรคตับโตเป็นการรักษาที่สาเหตุพื้นฐาน สาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้
ไวรัสตับอักเสบ
การรักษาไวรัสตับอักเสบขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสตับที่ผู้ป่วยเป็น ตามชนิดและการรักษาที่แตกต่างกัน
-
ไวรัสตับอักเสบ เอ (Hepatitis A) : ไม่มีการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับไวรัสตับเอ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นจะสามารถกลับมาหายเต็มที่ภายในหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
-
ไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B): ไม่มีการรักษาสำหรับไวรัสตับอักเสบบีเฉียบพลัน การรักษาสำหรับไวรัสตับบีเรื้อรังคือการนำยาต้านไวรัสมาใช้เพื่อลดความเสียหายของตับและยืดระยะการอยู่รอดให้เพิ่มขึ้น
-
ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C): การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังมีความจำเป็นต้องรักษาด้วยยาที่เรียกว่ายาต้านไวรัสตับอักเสบซี การรักษารูปแบบนี้ใช้เวลา 12-24 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าตับมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน
-
ไวรัสตับอักเสบ ดี (Hepatitis D): ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบดีต้องการการรักษาด้วย pegylated interferon-alpha ยาตัวนี้จะไปช่วยชะลอการดำเนินโรคได้ ซึ่งเมื่อโรคตับมาถึงช่วงระยะสุดท้ายอาจจำเป็นต้องมีการปลูกถ่ายตับใหม่
โรคตับจากแอลกอร์ฮอล์ ALD
การรักษาสำหรับโรค ALD จะรวมไปถึงการรักษาภาวะกลุ่มความผิดปกติของพฤติกรรมการดื่มสุราด้วย โดยปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามนี้:
-
ด้วยการล้างพิษ
-
พฤติกรรมลบำบัด เช่น การบำบัดความคิดและพฤติกรรม หรือการบำบัดเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจ
-
บำบัดแบบครอบครัว
-
บำบัดกลุ่ม
-
การรักษาด้วยการพัฒนาการดูแลสุขภาพจิตในผู้ป่วยฝ่ายกาย
ภาวะตับคั่งไขมันที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์NAFLD
การดูแลสำหรับ NAFLD ขึ้นอยู่กับส่วนที่เป็นสาเหตุของโรค การรักษาที่อาจเป็นไปได้เช่น
-
เปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับประทานอาหาร ซึ่งรวมไปถึงการลดการบริโภคอาหารชนิดไขมันและคอเรสเตอรอลลง
-
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
-
จัดการโรคที่เป็นอยู่ เช่นกาลลดระดับอินซูลินและโรคเบาหวานประเภท 2
โรคมะเร็ง
การรักษาโรคมะเร็งตับขึ้นอยู่ว่าตอนนี้เป็นมะเร็งในระยะปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ ปัจจัยที่ถูกนำเอามาพิจารณารวมไปถึงขนาด และระยะของโรคมะเร็ง ทางเลือกในการรักษาเช่น
-
การทำเคมีบำบัด
-
การฉายรังสี
-
การบำบัดระบบภูมิคุ้มกัน
-
การผ่าตัดเอาชิ้นเนื้องอกออก
-
การเปลี่ยนถ่ายตับ
หัวใจล้มเหลว
ถึงแม้จะไม่สามารถรักษาโรคหัวใจล้มเหลวได้ แต่ด้วยการรักษาที่เหมาะสมก็จะสามารถช่วยจัดการกับโรคได้ และยังป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้โดย
-
เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต เช่น:
-
เลิกสูบบุหรี่
-
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
-
หลีกเลี่ยงหรือจำกัดจำนวนคาเฟอีน
-
ลดความเครียด
-
ลดน้ำหนักหากมีความจำเป็น
-
เริ่มออกกำลังกาย
-
รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
-
-
รับประทานยา เช่น:
-
ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม angiotensin-converting enzyme
-
กลุ่มยาต้านตัวรับแองจิโอเทนซิน angiotensin 2 receptor blockers
-
ยาปิดกั้น beta-blockers
-
ยาขับปัสสาวะdiuretics
-
-
ผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติหรือหลอดเลือดอุดตัน
ภาวะตับโตในหญิงตั้งครรภ์
ผู้หญิงบางรายอาจประสบโรคตับโตในระหว่างตั้งครรภ์ สาเหตุของตับโตในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์อย่างรุนแรงได้
ในทารกแรกเกิด หากเกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอาจทำให้มีความรุนแรงหรืออาจถึงแก่ชีวิตได้ พบว่าราวๆ 90 เปอร์เซ็นต์ของหญิงที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลันจะส่งเชื้อต่อสู่ทารก แต่ความเป็นไปได้ในการแพร่เชื้อจะต่ำหากเป็นไวรัสอักเสบบีแบบเรื้อรัง พบว่ามีเพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะส่งเชื้อต่อสู่ทารก
หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ ALD หรือ NAFLD จะมีความเสียงเพิ่มมากขึ้นในการพัฒนาโรคตับโต และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
ภาวะตับโตในเด็ก
เด็กจะมีภาวะโรคตับโตได้ต้องเป็นผลมาจากตับโตแบบ NAFLD หรือโรคไขมันคั่งในตับแบบไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์
เด็กที่เป็นโรคดังกล่าวมักไม่ค่อยปรากฏอาการใดๆ เมื่ออาการแสดงขึ้นมาเด็กจะรู้สึกเหนื่อยล้า และรู้สึกไม่สบายตัวบริเวณช่องท้องส่วนบนด้านขวา
ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดสำหรับโรค NAFLD ในเด็ก แต่อย่างไรก็ตามอาจเกิดโรคดังกล่าวในเด็กตามมาเช่น
-
โรค high lipid disorder
-
เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
-
โรคเบาหวานประเภทที่ 2 หรือ ภาวะก่อนเบาหวาน
-
ไวรัสตับอักเสบซี
ภาวะตับโตควรไปพบแพทย์เมื่อไร
ภาวะตับโตมักไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ โรคตับอาจนำไปสู่ภาวะตับโตที่สามารถดำเนินโรคไปได้โดยไม่มีอาการใดๆแสดงให้เห็น
ควรพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้:
-
รู้สึกถึงอาการที่ตับโตขึ้น
-
มีโรคประจำตัวที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการพัฒนาโรคตับ
การเฝ้าระวังโรคตับโต
การเฝ้าระวังในผู้ป่วยที่มีภาวะตับโตจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของตับโต และความเสียหายของตับ
ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบเอ และไวรัสตับอักเสบบีชนิดเฉียบพลันมักสามารถหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา
ผู้ป่วยที่เป็นโรค NAFLD ในระยะแรกเริ่ม อาจเฝ้าระวังได้ ตับที่ถูกทำลายไม่มากจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้หากผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่
ผู้ป่วยที่ตับเสียหายจากรูปแบบอื่นๆ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อเฝ้าระวังโดยเฉพาะ
การป้องกันภาวะตับโต
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะตับโต คือ การดูแลตับของตนเอง สามารถปฏิบัติตามได้ดังต่อไปนี้
-
ใช้ยาเท่าที่มีความจำเป็น และไม่ใช่ยาสลับไปมาเองเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
-
ควรบริโภคแอลกอฮฮล์ให้น้อยหรือเลิกดื่ม
-
จำกัดการสัมผัสสารพิษ เช่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสี
-
ไม่ใช้อุปกรณ์ตัดผมร่วมกับผู้อื่น เช่น มีดโกนหรือแหนบ
-
ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
-
ใช้อุปกรณ์ป้องกันในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถุงยาง
-
รับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพ ลดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์
-
ออกกำลังกายเป็นประจำ
-
รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
บทสรุป
ภาวะตับโตเป็นโรคที่ตับมีขนาดใหญ่ขึ้น มีอาการจากโรคแต่ไม่ใช่อาการของตัวโรคเอง
บางโรคสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะตับโตขึ้น รวมไปถึงโรคไขมันในตับ โรคมีปัญหาเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ โรคไวรัสตับอักเสบ และโรคมะเร็ง
ผู้ป่วยอาจมีภาวะตับโต และไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่า ตับมีการโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยจะต้องมีอาการไม่สบายตัว หรือแน่นบริเวณช่องท้องส่วนบนด้านขวา
โรคตับบางชนิดสามารถรักษาหายได้หากมีการตรวจพบ และทำการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น หากรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตับ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และได้รับการรักษาที่เหมาะสม
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
-
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/enlarged-liver/symptoms-causes/syc-20372167
-
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17937-enlarged-liver
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก