ภาวะขนดก (Hirsutism) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ภาวะขนดก (Hirsutism) : อาการ สาเหตุ การรักษา

30.04
4590
0

ภาวะขนดก (Hirsutism) เป็นภาวะขนที่มีลักษณะหยาบหรือมีสีงอกขึ้นบนใบหน้าและร่างกายในผู้หญิง ซึ่งบางครั้ง อาจเป็นผลมาจากภาวะหรือโรคต่าง ๆ 

ผู้หญิงส่วนใหญ่มีขนที่ละเอียด สีจาง ๆ บนใบหน้าและลำตัว แต่บางครั้ง ขนอาจหนาขึ้นและมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

ผู้ที่มีภาวะขนดกราวครึ่งหนึ่งเป็นคนที่มีแอนโดรเจนมากผิดปกติ ซึ่งโดยปกติแล้ว ฮอร์โมนเหล่านี้มักกระตุ้นพัฒนาการทางร่างกายและทางเพศในผู้ชาย โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะมีระดับแอนโดรเจนต่ำ แต่ระดับเหล่านี้ อาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุหลายประการ

หากมีแอนโดรเจนในระดับที่สูงก็จะไปกระตุ้นรูขุมขนมากขึ้นเช่นกัน จนทำให้ขนเติบโตมากกว่าปกติที่พบได้ในผู้หญิงโดยทั่วไป ทำให้ผู้หญิงมีขนเยอะ

ภาวะขนดกอาจเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงจำนวน 5 ถึง 10 ซึ่งขึ้นอยู่กับคำจำกัดความในท้องถิ่นและวัฒนธรรมของคำว่า “จำนวนขนปกติ” หรือจำนวนมากขนาดไหนจึงผิดปกติ เป็นต้น

ความชุกของขนจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวัยหมดประจำเดือน

 อาการของภาวะขนดก 

ขนดกเป็นภาวะที่มีการเติบโตของขนที่หนาขึ้นในผู้หญิงมากผิดปกติ

ผู้หญิงที่มีขนดกชนิดไม่รุนแรงอาจสังเกตเห็นการเติบโตของขนจำนวนมากที่ริมฝีปาก บนคาง บริเวณที่มีอาการจะรู้สึกแสบ และรอบหัวนม หรือท้องน้อย

ขนที่ขึ้นจะเป็นขนที่โตเต็มที่หรือมีสีเดียวกับผมที่งอกบนหนังศีรษะ

ขนดกชนิดรุนแรงจะเห็นว่ามีขนดกมากกว่าปกติบริเวณหลังส่วนบน ไหล่ หน้าอกและท้องส่วนบน และมักจะมีให้เห็นในช่วงวัยแรกรุ่น

หากภาวะขนดกเริ่มขึ้นก่อนหรือหลังวัยแรกรุ่นสาเหตุอาจเกิดจากปัญหาด้านฮอร์โมน ซึ่งแพทย์ควรประเมินอาการของโรค

นอกจากการเจริญเติบโตของขนที่โตผิดปกติแล้ว ผู้หญิงที่มีขนดกอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น:

  • มีผิวมัน
  • มีสิว
  • มีขนร่วงหรือที่เรียกว่า ภาวะขนร่วง
  • เริ่มมีภาวะหัวล้าน
  • คลิตอริสมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • เสียงแหบห้าว

สาเหตุของภาวะขนดก

ระดับแอนโดรเจนที่เพิ่มขึ้นหรือรูขุมขนที่ไวต่อต่อฮอร์โมนแอนโดรเจนอาจทำให้เกิดภาวะขนดกได้

โดยปกติแล้ว ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนจะมีสูงมากในผู้ชาย แต่ผู้หญิงทุกคนก็มีฮอร์โมนตัวนี้อยู่ แต่ในระดับที่น้อยกว่า

ฮอร์โมนเพศชาย เช่น เทสโทสเตอโรนกระตุ้นการเจริญเติบโตของผมและเส้นขน เพิ่มขนาดของร่างกายให้ใหญ่ขึ้นและเพิ่มการเจริญเติบโตและการสร้างเม็ดสีให้กับเส้นผมและขน

อินซูลินในระดับสูง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ “ปลดล็อก” เซลล์เพื่อดูดซับพลังงานจากน้ำตาลอาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะขนดก อินซูลินช่วยกระตุ้นเซลล์รังไข่ให้ผลิตแอนโดรเจน

ซึ่งอาจเกิดขึ้นในผู้หญิงที่มีภาวะดื้ออินซูลิน เช่น ในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2

อินซูลินในระดับสูงอาจกระตุ้นตัวรับปัจจัยการเจริญเติบโตชนิด-ไอ (IGF-1) ที่คล้ายอินซูลินในเซลล์เดียวกันโดยจะเพิ่มการผลิตแอนโดรเจนในทำนองเดียวกัน

เนื่องจากโรคเบาหวานประเภท 2 อาจมีสาเหตุมาจากโรคอ้วน และจึงทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะขนดกได้เช่นกัน คอเลสเตอรอลสูงอาจมีบทบาทในการทำให้เกิดภาวะขนดกเช่นกัน

ภาวะขนดกอาจเป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด การบำบัดด้วยฮอร์โมนแอนโดรเจนที่มีส่วนผสมของเทสโทสเตอโรน ดีไฮโดรพีแอนโดรสเตอโรน (DHEA) หรือยาดานาโซลอาจมีส่วนทำให้ขนดก

ร่างกายผลิตดีไฮโดรพีแอนโดรสเตอโรน (DHEA) ตามธรรมชาติและบางคนก็ใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อต่อสู้กับภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคกระดูกพรุน ดานาโซล เป็นสเตียรอยด์สังเคราะห์ที่บางครั้งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ทั้งยาทั้งฮอร์โมนที่กล่าวมาแล้วมีผลข้างเคียงคือเป็นตัวเร่งการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย

ภาวะขนดกผิดปกติในผู้หญิงที่มีระดับแอนโดรเจนปกติ ประจำเดือนมาเป็นประจำและไม่มีอาการอื่นใดที่เรียกว่าภาวะขนดกโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งหมายความว่า ความผิดปกตินี้ไม่สามารถระบุสาเหตุได้

ภาวะขนดกไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติหรือโรคต่าง ๆ เสมอไป อย่างไรก็ตาม หากภาวะขนดกเกิดขึ้นก่อนวัยแรกรุ่น และหากมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับเพศชายอื่น ๆ เช่น มีเสียงแหบลึก อาจมีสาเหตุมาจากเนื้องอกได้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ซึ่งในบางกรณี เนื้องอกของต่อมหมวกไตต่อมใต้สมองและรังไข่อาจทำให้เกิดขนดกได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะขนดกที่เกิดจากเนื้องอกจะรุนแรงกว่าและเริ่มมีอาการเร็วกว่าภาวะขนดกที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมน

Hirsutism

การวินิจฉัยภาวะขนดก

การตรวจเลือดช่วยให้แพทย์ทราบระดับฮอร์โมนเพศชายและดีไฮโดรพีแอนโดรสเตอโรนในร่างกายได้

โดยแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติคนไข้ก่อน โดยเน้นถามเรื่องของรอบเดือนเป็นพิเศษ หากมีประจำเดือนมาเป็นประจำ ภาวะขนดกน่าจะมีสาเหตุทางพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ได้

หากประจำเดือนมาไม่ปกติ สาเหตุของภาวะขนดกอาจมาจากกลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS)

หากทั้งภาวะขนดกและภาวะความผิดปกติของประจำเดือนเริ่มมีอาการได้ไม่นาน และหากประจำเดือนไม่มาแล้ว แพทย์อาจตรวจหาภาวะหรือโรคต่าง ๆ ที่อาจร้ายแรงกว่านี้ เช่น เนื้องอกในรังไข่ต่อมหมวกไตหรือต่อมใต้สมอง เป็นต้น

โดยการวัดระดับฮอร์โมนเพศชายและดีไฮโดรพีแอนโดรสเตอโรนในเลือด แพทย์สามารถตรวจหากลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ เนื้องอกรังไข่ เนื้องอกในต่อมหมวกไตหรือเนื้องอกที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตได้

ในผู้ป่วยที่มีภาวะขนดกไม่มากซึ่งไม่มีอาการอื่นใดที่บ่งชี้ว่ามีการผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไปอาจไม่จำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติม

หากจำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมก็จะเป็นการตรวจเลือดซ้ำ ๆ หลายครั้งเพื่อดูความบกพร่องของฮอร์โมนต่อมหมวกไต ซึ่งอาจทำให้ต่อมหมวกไตเจริญเติบโตผิดปกติ

แพทย์อาจตรวจระดับฮอร์โมนโปรแลคตินเพื่อตรวจหาสัญญาณของเนื้องอกในต่อมใต้สมองด้วย นอกจากนี้ ยังอาจตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลเพิมเติม

แพทย์อาจใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการเนื้องอกหรือความผิดปกติทางร่างกายที่เป็นสาเหตุของภาวะขนดก ได้:

  • การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมอง
  • การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ต่อมหมวกไต
  • การตรวจอัลตราซาวนด์รังไข่
  • การรักษาภาวะขนดก

หากสาเหตุจำเพาะของภาวะขนดกชัดเจน แพทย์อาจแนะนำการรักษาที่เหมาะกับสาเหตุของโรค

หากมีระดับอินซูลินสูง การไปลดระดับอินซูลินอาจทำให้เกิดการลดขนดกได้

ผู้หญิงที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงอาจพบว่าโปรแกรมลดน้ำหนักช่วยลดระดับแอนโดรเจนและทำให้เกิดอาการขนดกได้

การรักษาด้วยศาสตร์ด้านความงาม

การแว็กซ์เป็นอีกตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพแต่เป็นวิธีที่เจ็บเพราะเป็นการดึงขน

ภาวะขนดกอาจทำให้เกิดเครียดหรืออายได้ แต่การรักษาด้วยเครื่องสำอางและการแพทย์บางอย่างอาจช่วยลดระดับแอนโดรเจนหรือผลกระทบต่อรูขุมขนได้

การรักษาบางอย่างได้ผลดีกับภาวะขนดกไม่มาก เช่น :

  • การถอนขน
  • การโกน
  • การแว็กซ์ขน
  • การใช้สารเคมีทำให้ขนนุ่มลง
  • การใช้ครีมกำจัดขน

อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีเหล่านี้ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ นอกจากนี้ ยังต้องทำซ้ำ ๆ เป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เราควรแว็กซ์ขนทุกๆ 4 ถึง 6 สัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้ขนเหล่านี้งอกกลับออกมา

และมีเทคนิคการกำจัดขนด้วยเลเซอร์โดยจะใช้แสงสร้างความร้อนในรูขุมขนและทำลายความสามารถในการผลิตขนขึ้นมา

การรักษาด้วยเลเซอร์จะได้ผลดีกว่ากับผิวหนังบางประเภท แต่การทำเลเซอร์ ขนก็ยังสามารถงอกกลับมาใหม่ได้ ทั้งนี้การทำเลเซอร์มีราคาแพงและใช้เวลานาน และการรักษาด้วยเลเซอร์จำเป็นต้องได้รับบริการจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่ง

อย่างไรก็ตาม ผลของการทำเลเซอร์จะอยู่ได้นานกว่าการกำจัดขนด้วยครีมกำจัดขน การโกนหนวดหรือแว็กซ์

อิเล็กโทรลิซิสยังสร้างความร้อนเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเส้นผมภายในรูขุมขน แต่วิธีการรักษาจะใช้ไฟฟ้าแทนการใช้แสงหรือรังสี กระแสไฟฟ้าได้รับความนิยมน้อยกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์เนื่องจากอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้

ยาบางชนิดอาจเปลี่ยนแปลงผลกระทบของแอนโดรเจนในร่างกายและผิวหนังได้

ยาคุมกำเนิดแบบผสมซึ่งมีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนช่วยต่อต้านผลของแอนโดรเจนและลดการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในรังไข่ได้ ภาวะขนดกอาจดีขึ้นหลังจากทานยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง 6 ถึง 12 เดือน ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างใกล้ชิด

โดยอาจใช้ยาต้านแอนโดรเจนเพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิดก็ได้

โดยปกติแล้ว แพทย์จะจ่ายอัลดัคโทนให้คนที่มีภาวะขนดกใช้แต่ก็อาจเลือกทางเลือกอื่นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ อย่าทานยาต้านแอนโดรเจนในระหว่างตั้งครรภ์

การป้องกันภาวะขนดก

การควบคุมภาวะขนดกไม่สามารถทำได้เสมอไป อย่างไรก็ตาม การทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและและครบ 5 หมู่ และการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคคอเลสเตอรอลสูงและโรคเบาหวานได้

การเลี่ยงใช้ยาที่ไม่จำเป็นและเป็นยาที่เป็นสาเหตุของภาวะขนดกยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะขนดกได้อีกด้วย

โดยสามารถใช้เทคนิคการกำจัดขนเดียวกันได้ เช่น:

  • การถอนขน
  • การโกน
  • การแว็กซ์ขน
  • ใช้สารเคมีทำให้ขนนุ่ม
  • ใช้ครีมกำจัดขน
  • การกำจัดขนด้วยเลเซอร์
  • กำจัดขนด้วยกระแสไฟฟ้า

การลดน้ำหนักอาจมีประโยชน์เพราะช่วยลดระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนในร่างกาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดภาวะขนดกได้

บางรายอาจต้องปรึกษาแพทย์โดยแพทย์จะดูว่า ยาต้านแอนโดรเจนหรือยาเกี่ยวกับฮอร์โมนนั้นเหมาะสำหรับรักษาภาวะขนดกที่ไม่ทราบสาเหตุหรือไม่

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *