ไลเคน พลานัส (Lichen planus) คือ การอักเสบของผิวหนัง ที่มีอาการ คัน มีผื่นที่ไม่ติดเชื้อบริเวณ แขน และขา เป็นผื่นเล็ก แบน เป็นสีชมพูหรือม่วง
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหลายท่านเชื่อว่า มันอาจเป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ
จากข้อมูลของสถาบันโรคผิวหนังสหรัฐอเมริกา ไลเคน พลานัสส่งผลกระทบ่อชาวอเมริกัน 1 เปอร์เซนต์ โดยปกติแล้วเกิดกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี
การรักษาไลเคน พลานัส
ไลเคน พลานัสไม่ใช้โรคที่รักษาหายขาด
เมื่อมันเกิดขึ้นบนผิวหนัง มันมักจะหายไปโดยใช้เวลาหลายเดือน อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ปี การรักษามุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการจนกว่าผื่นจะหายไปเอง
เคยที่ไม่รุนแรงนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ นอกจากการติดตามอาการ
สำหรับเคสที่รุนแรง การรักษาอาจมีดังนี้:
- ยาแก้แพ้อาจช่วยบรรเทาอาการคันได้
- การรักษาด้วยรังสียูวี สามารถช่วยลดอาการได้
- การใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ หรือ ขี้ผึ้ง สามารถช่วยลดกรอักเสบและแดงได้ โดยกรใช้ยาทาตรงจุดที่คัน ควหยุดมาเมื่อตรงที่คันกลายเป็นสีน้ำตาลหรือเทา
- บางครั้ง ครีมหรือขี้ผึ้งอาจมีส่วนผสมของยาที่ช่วยลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้
- สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง หรือ หากครีมและขี้ผึ้งไม่ได้ผลมากพอ ผู้ป่วยสามารถรับประทานสเตียรอยด์ชนิดเม็ดได้
- ยาไซโคลสปอรินชนิดแคปซูล หรือ อาซิเทรตินชนิดเม็ดสามารถกิจกรรมของระบบภูมิคุ้มกันและบางครั้งก็สามารถช่วยได้ แต่พวกมันจะใช้ในเคสที่รุนแรงมาก ๆ เท่านั้น
- สำหรับไลเคน พลานัสที่เกิดขึ้นในปาก แพทย์อาจจ่ายยาอมสเตียรอยด์หรือน้ำยาบ้วนปากหากแผลในปากทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่ดี
- สำหรับไลเคน พลานัสที่เกิดขึ้นที่เยื่อเมือก การรักษาให้ได้ผลดีอาจจะเป็นไปได้ยากและอาจจะใช้เวลาหลายปี แพทย์อาจสั่งยา corticosteroids นิดเม็ดให้รับประทาน
ไลเคน พลานัส ทำให้เกิดปัญหาเล็กน้อยและไม่จำเป็นจำเป็นต้องได้รับการรักษา การรักษาความสะอาดของช่องปากนั้นทำได้ยากสำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บปาก ซึ่งทำให้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะรักษาช่องปากให้สะอาดเสมอ
อาการไลเคน พลานัส
อาการนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายขึ้นอยู่กับตำแหน่งของโรค
การกำเริบรอบแรกอาจเกิดขึ้นหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน ในขณะที่การกลับมากำเริบอีกนั้นสามารถกินเวลานานหลายปี ซึ่งในเคสที่เป็นไลเคน พลานัสในช่องปากนั้นมีโอกาสที่อาการจะกำเริบมากกว่า
อาการจะเกิดขึ้นในรูปแบบเหล่านี้ ในบริเวณต่าง ๆ
ไลเคน พลานัสที่ผิวหนัง
- ผื่นขึ้นอย่างกะทันหัน และเป็นเวลานานหลายเดือน
- ผื่นเป็นกลุ่ม ๆ หรือ เป็นรูปแบบที่ มันวาว นูน เป็นสีแดง ชมพู หรือ ม่วง ลักษณะแบน
- ตุ่มจะมีขนาดประมาณ 3 ถึง 5 มิลลิเมตร
- บางครั้งอาจมีรอยสีขาว ๆ บนตุ่ม เรียกว่า Wickham’s striae.
- อาจมีอาการคันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตอนกลางคืน
บริเวณที่พบมากที่สุดจะเป็น ข้อมือ ข้อศอก ข้อเท้า หรือหลังส่วนล่าง อย่างไรก็ตาม ส่วนอื่นของร่างกายก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน หน้าแข้งอาจมีไลเคน พลานัสขึ้นหนา ๆ ในขณะที่รักแร้อาจเป็นไลเคน พลานัส ที่เป็นรูปวงแหวน
ไลเคน พลานัส ในช่องปาก
- รอยขาว ๆ จะเกิดขึ้นในกระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้น และริมผีปากก็อาจได้รับผลกระทบไปด้วย
- รอยเหล่านั้นอาจจะไม่เจ็บหรือคัน
- รอยขาว ๆ จะไม่หายไปไหน
- เหงือกอาจแดง หรือ พอง
- อาจเกิดแผลในปากและหายไป
- การรับรสอาจรู้สึกว่าไม่มีรสชาด และอาจรู้สึกว่ามีรสชาดของโลหะ
- ปากแห้ง
- อาหารเผ็ด กรอบ และผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ไลเคน พลานัสที่อวัยวะเพศชาย
- เกิดแผลที่มีลักษณะเป็นวงแหวนสีขาว หรือ สีม่วงขึ้นที่ส่วนหัวของอวัยวะเพศชาย
- ปกติแล้วจะไม่คัน
- อาการจะคล้าย ๆ กับเชื้อรา จึงถูกเข้าใจผิดบ่อย ๆ
ไลเคน พลานัสที่อวัยวะเพศหญิงและช่องคลอด
จะเกิดรอยที่คล้าย ๆ ที่ปาก ขึ้นที่ช่องคลอด จะไม่เจ็บหรือคัน
ผิวอาจจะแดงไลเคน พลานัสเกิดขึ้นที่แคมเล็ก และทางด้านหน้าของอวัยวะเพศอาจกลับมาเป็นได้เรื่อย ๆ ส่งผลให้เนื้อเยื่อบุแดง แคมเล้กอาจหดและติดเข้าด้วยกันได้
อวัยวะเพศอาจจะแดง เนื้อเยื่อที่เป็นแผลเป็นอาจทำให้อวัยวะเพศผิดรูปไป ไลเคน พลานัสสามารถส่งผลกระทบต่อบริเวณลึก ๆ ของอวัยวะเพศได้ ทำให้เกิดช่องคลอดอักเสบ ผิวหน้าของเซลล์ที่อวัยวะเพศอาจลอกออก และอาจทำให้เลือดอกเมื่อสัมผัสได้
การมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เจ็บปวด ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเพศสัมพันธ์
ไลเคน พลานัสที่รูขุมขน
เกิดขึ้นในบริเวณที่มีขนขึ้น เช่น บนหนังศีรษะ อาจมีการแดง และการระคายเคือง บางครั้งไลเคน พลานัส ชนิดนี้ทำให้ผมร่วง ซึ่งเป็นแบบถาวร
ในเคสที่พบได้น้อยมาก ๆ ไลเคน พลานัส สามารถเกิดขึ้นได้ที่ ทวารหนัก รูหู เปลือกตา และหลอดอาหาร
สาเหตุของไลเคน พลานัส
สาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดไลเคน พลานัส ยังไม่เป็นที่ทราบชัดแน่นอน
หลายคนเชื่อว่ามันเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันอัตโนมัติผิดปกติ โดยการที่ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเนื้อเยื่อดี
สิ่งที่รู้เกี่ยวกับไลเคน พลานัส:
- ไม่ใช่โรคติดต่อทางพันธุกรรม
- ไม่ใช่โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ
- ไม่ใช่รูปแบบของโรดมะเร็ง
- ไม่มีความเชื่อมดยงกับโภชนาการ อย่างไรก็ตาม อาหารเผ็ด น้ำผลไม้รสเปรี้ยว และผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศอาจทำให้อาการแย่ลงหากมีแผลเปิดในปาก
สาเหตุอื่นของไลเคน พลานัส:
ยาต่าง ๆ : ไลเคน พลานัส เกิดจากการตอบสนองของยาบางชนิด เช่น:
- เบต้า บล็อกเกอร์ ซึ่งใช้ในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ยาต้านการอักเสบ
- การฉีดทองเข้าไปเพื่อรักษาข้ออักเสบ
- ยารักษาโรคมาลาเรีย
- กลุ่มยาขับปัสสาวะ
- ยากลุ่มที่ใช้รักษาโรคจิตเภท , a group of tranquilizing drugs with antipsychotic actions
สารอื่น ๆ: มีความเกี่ยวเนื่องของการใช้สารเคมีบางประเภทที่ใช้ในกับการพัฒนาการถ่ายภาพสีและไลเคน พลานัส
โลหะอุดฟัน: งานวิจัยบางชิ้นพบความเชื่อมโยงระหว่างไลเคน พลานัสในปากและปฏิกริยาแพ้โลหะอุดฟัน
ไลเคน พลานัสเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรค Grinspan’s syndrome กลุ่มโรคที่เป็นความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และไลเคน พลานัส ในช่องปาก
นี่คือที่มาในบทความของเรา
https://www.medicalnewstoday.com/articles/184866
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก