ระยะอาการเมเนียคืออะไร
ระยะอาการเมเนีย Mania คือ ลักษณะช่วงอาการการควบคุมอารมณ์ผิดปกติหรือหงุดหงิดหรือมีพลังงานล้น ความคิดแล่นเร็วและมีพฤติกรรมสุดโต่งและเกินความจริง มีภาวะทางจิต ซึ่งรวมถึงการเห็นภาพหลอนและมีอาการหลงผิด ซึ่งทำให้ทำตัวแปลกแยกจากความเป็นจริง
อาการของเมเนียอาจเกิดขึ้นเป็นสัปดาห์หรือมากกว่านั้นได้ ระยะอาการเมเนียอาจกระจายอยู่ภายในช่วงระหว่างภาวะซึมเศร้าซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อนล้า เศร้าและสิ้นหวัง ในขณะที่ระยะอาการเมเนียคือสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใใหญ่ในคนที่เป็นโรคอารมรณ์สองขั้ว เป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมอย่างสุดขีด
อาการเมเนีย
ระยะอาการของเมเนียสามารถเกิดขึ้นได้กระทันหัน ด้วยการหายใจสั้น เจ็บหน้าอกหรือเลือดออก
เมื่อมองหาระยะอาการเมเนียสิ่งที่สำคัญคือการพิจารณารูปแบบพฤติกรรมที่เปลี่ยนตัวเราหรือคนที่เรารักไปจากพฤติกรรมปกติ
ต่อไปนี้คือพฤติกรรมทั่วๆผที่เกิดขึ้นร่วมกับระยะอาการเมเนีย – พฤติกรรมที่สามารถสังเกตุเห็นได้ง่าย เป็นพฤติกรรมที่ควาจำไว้เพื่อการช่วยเหลือ
หากเพื่อนของคุณหรือคนที่คุณักได้ยินเสียงหรือเห็นภาพหลอน (การได้เห็นหรือได้ยินในบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีจริง) หรือแสดงอาการหวาดกลัวหรืออาการหลงผิดอื่นๆ (เชื่อว่ามีบางสิ่งที่ไม่มีจริง) ให้ติดต่อแพทย์ในทันทีเพราะสิ่งนี้อาจเป็นอาการเมเนีบที่รุนแรงได้
ความต้องการในการนอนลดลง
คุณหรือคนที่คุณรักไม่ยอมนอนจนตี 4 และจากนั้นก็ตื่นตอน 8 โมงเช้าหรือไม่ การต้องการในการนอนที่ลดน้อยลงคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั่ไปในระหว่างเกิดอาการเมเนีย น่าเสียดายที่ปัญหาการนอนและโรคอารมณ์สองชั้วสามารถทำให้อาการทั้งสองอาการเพิ่มขึ้นได้ ระยะอาการเมเนียจะนำไปสู่ปัญหาการนอน
ยุ่งอยู่กับหลายๆกิจกรรมในเวลาเดียวกัน
ในระหว่างเกิดระยะอาการเมเนีย อาจเกิดอาการกระสับกระส่ายในการหาทางกำจัดพลังงานที่มีมากเกินไป อาการนี้คืออาการที่อธิบายได้ถึง “ภาวะ Multitasking on Steroids”
พูดมากหรือพูดเสียงดัง พูดเร็วหรือภาวะพูดเร็วพูดมาก
การพูดเสียงดังและเร็วคืออาการทั่วไปที่เกิดขึ้นในช่วงต้นของอาการเมเนียหรือช่วงระยะอารมณ์คึกคัก สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือการพูดเร็ว พูดด้วยความเร็วต่างจากคนปกติ
ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น
ความต้องการทางเพศสูงคืออาการปกติของอาการเมเนียและอาการไฮโปเมเนีย ซึ่งรวมถึงลักษณะที่ไม่ใช่เรื่่องปกติหรือมีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงเช่นการใช้บริการทางเพศ เข้าเว็บไซต์ลามกอนาจาร และอื่นๆ
มีพฤติกรรมเพิ่มความเสี่ยง
ในบางรายเมื่อมีระยะอาการเมเนียจะมีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น บางคนอาจมีส่วนในเรื่องของเงินเช่นการใช้เงินเกินความจำเป็น ใช้เงินฟุ่มเฟือยและใช้ในการพนัน
คิดเร็ว
หากสังเกตเห็นเพื่อนหรือคนในครอบครัวบ่นและคิดเร็วที่ไม่สามารถควบคุมได้ จากภายนอกคนที่มีภาวะอารมณ์สองขั้วอาจมีอาการพูดไม่หยุดและโรคร่าเริง ในขณะที่ภายในใจกลับมีความคิดฟุ้งซ่านและวนไปวนมา
ขัดแย้งทางความคิด
บางรายเมื่อเข้าสู่ช่วงระยะเมเนียของโรคไบโพล่าร์ จะเกิดการขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง เป็นภาวะที่ยากจะเข้าใจเรื่องเหตุและผลในการคิด
มีอาการคุยโว้โออวด
ควรเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังหากพบว่าเพื่อนหรือคนที่เรารักเริ่มมีอาการหลงผิด ยกตัวอย่างเช่นคิดว่ามีดารานักร้องชื่อดังส่งจดหมายรักมาหาตัวเองหรือจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศในสัปดาห์นี็ ภาวะโอ้อวดคืออาการเกินจริงในเรื่องของความรู้ความคิด อำนาจหรือตัวตน เช่นฉันจะลาออกจากงานและมาแต่งนิยาย ซึ่งสำคัญมากหากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับคนที่ชอบการเขียนจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คำพูดเดียวกันพูดจากคนที่ไม่เคยเขียนหรือสนใจใส่ใจมาก่อนให้เราสงสัยอาการเหล่านี้ไว้ก่อน
ต่อต้านและหรือหงุดหงิดเพิ่มขึ้น
ระวังอาการหงุดหงิดหรือต่อต้านที่ไม่มีเหตุผล เฝ้าระมัดระวังและให้ความช่วยเหลือหากเห็นพฤติกรรมดังกล่าวนี้ อย่าพยายามรับมือกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวคุณเอง
มีความคิดฆ่าตัวตาย
ในบางรายเมื่ออยู่ในระยะเมเนียอาจเกิดความรู้สึกสิ้นหวังหรือไร้ค่าหรือคิดเกี่ยวกับความตายหรือฆ่าตัวตาย
สวมใส่เสื้อผ้าสีสดใส
ในระหว่างระยะอาการเมเนียหรือไฮโปรเมเนีย บางคนอาจชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีสรรสดใสหรือฉูดฉาด แน่นอนที่คนส่วนใหญ่ก็มักชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีสดใสอยู่แล้วและไม่ต้องมีอาการเมเนียหรือไฮโปรเมเนีย
แต่การเลือกเสื้อผ้าก็อาจเป็นเบาะแสหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันกับการเกิดระยะอาการเมเนียหรือไฮโปรเมเนีย การเปลี่ยนการแต่งกายเช่นความอยากในการแต่งตัวอาจเป็นผลสะท้อนของอาการอื่นๆเช่นความต้องการทางเพศสูง
การวินิจฉัยโรค
การวินิจฉัยโรคระยะอาการเมเนียในภาวะอารมณ์สองขั้ว จะต้องมีอาการนานและผิดปกติมาก ร่าเริงหรือมีอารมณ์หงุดหงิดอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าหนึ่งสัปดาห์ หรือมีอาการอย่างน้อยสามอาการจากอาการดังต่อไปนี้
- -วอกแวกได้ง่าย
- -หมกมุ่นกับการทำงานหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน มากเกินกว่าที่จะเป็นได้จริงในหนึ่งวัน
- -มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่นเล่นการพนันหือมีเพศสัมพันธ์ไม่มีการป้องกัน
- -รู้สึกพูดมากพูดเร็ว พูดเสียงดังและรัว
- -โอ้อวดหรือลำพองตน
- -มีความต้องการในการนอนน้อย
- -คิดรวดเร็ว
สาเหตุ
ระยะอาการเมเนียคืออาการที่พบได้ทั่วไปในคนที่เป็นโรคอารมณ์สองขั้วชนิดที่ 1 แต่ก็มีที่มาจากสาเหตุอื่นและโรคประจำตัว รวมถึง:
- การคลอดบุตร (ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด)
- การบาดเจ็บที่สมอง
- เนื้องอกในสมอง
- สมองเสื่อม
- ไข้สมองอักเสบ
- ระดับความเครียดสูง
- โรคลูปัส
- ผลข้างเคียงจากยา
- การใช้สารเสพติดหรืแแอลกอฮอล์
- ภาวะขาดการนอนหลับ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- การบาดเจ็บหรือการถูกละเมิด
การรักษา
ในขณะที่ยังไม่มีการรักษาสำหรับระยะอาการเมเนีย การใช้ยาผสมผสานกัน การบำบัดและการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตสามารถช่วยจัดการกับอาการและช่วยหลีกเลี่ยงการกระตุ้นได้
ยา
ระยะอาการเมเนียฉับพลันมักรักษาด้วยยาต้านอาการทางจิต ในขณะที่รักษาระยะยาวอาจต้องยาควบคุมอารมณ์เพื่อป้องกันอาการในอนาคต หากคุณหรือคนที่คุณนักมีรูปแบบการนอนที่เปลี่ยนไป (มีช่วงตื่นเป็นเวลานาน) การใช้ยานอนหลับอาจช่วยได้ในระยะสั้น
ยาต้านอาการทางจิตรวมถึง:
- อะบิลิฟาย (อะริพิพราโซล)
- ลาตูดา(ลูราซิโดน)
- ไรสเปอร์ดัล (ริสเพอริโดน)
- เซโรเควล (ควิไทอะปีน)
- Vraylar (คาริพราซีน)
- Zyprexa (โอแลนซาปีน)
ยาควบคุมอารมณ์รวมถึง:
- เดพาคอต (ไดวาลโปรเอ๊กซ์ โซเดียม)
- เทเกรทอล (คาร์บามาเซพีน)
การบำบัด
การบำบัดทางจิตร่วมกับการได้รับการฝึกจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยแยกแยะเมื่ออารมณ์มีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงการถูกกระตุ้นที่นำไปสู่ระยะอาการเมเนีย อาจมีการเพิ่มยาร่วมกับการฝึกทักษะรับมือกับอาการเหล่านี้และช่วยทำให้ชีวิตมีคุณภาพมากขึ้น แนวทางการบำบัดโรคคือ:
- การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT)
- พฤติกรรมบำบัดวิภาษวิธี (DBT)
- ครอบครัวบำบัดFamily Therapy
การช่วยเหลือคือส่วนที่มีความสำคัญที่สุดในการจัดการระยะอาการเมเนีย ดังนั้นการเข้ากลุ่มช่วยเหลือสำหระบคนมีภาวะโรคสองอารมณ์จึงเป็นเรื่องควรนำมาพิจารณษหากไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวคอยช่วยเหลือ
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต
จากการใช้ยาและการบำบัด การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไม่กี่อย่างก็สามารถช่วยจัดการกับระยะอาการเมเนียได้
- -หาเวลาในการออกกำลังกาย ทางที่ดีที่สุดคือหากิจกรรมทางร่างกายทำเป็นประจำทุกวัน
- -รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงการข้ามมื้ออาหาร
- -นอนให้เพียงพอ รวมถึงการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา (แม้แต่ในช่วงวันหยุด)
- -เขียนบันทึก จดบันทึกอาการเมเนียและซึมเศร้าของตัวเอง ใส่ใจสิ่งกระตุ้น เหตุการณ์ในชีวิตเช่นการเปลี่ยนงาน การเลิกกันหรือย้านสถานที่ การฟังดนตรีดังๆ การเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ การเคลื่อนย้ายหรือออกไปเที่ยวพักผ่อน
- -พบแพทย์ตามนัด พบแพทย์และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก