โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังคือการให้ความหมายในวงกว้างถึงสองเงื่อนไขในการเกิดภาวะปอดอุดกั้น
ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรค ผู้ป่วยจะมีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังและถุงลมโป่งพอง หรืออาจจะทั้งสองอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก
นอกจากนี้ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นหากมีอาการจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังคืออะไร
ปอดอุดกั้นเรื้อรังคือ การให้ความหมายในวงกว้างสองเงื่อนไขในการเกิดภาวะปอดอุดกั้นนั่นคือภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมโป่งพอง ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสอง และความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ถุงลมโป่งพองจะทำลายถุงลมในปอด ซึ่งจะทำให้ปอดสูญเสียการขยายตัวและไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลอดลมอักเสบเรื้อรัง คือ การอักเสบต่อทางเดินหายใจ ซึ่งจะทำให้เกิดเมือกในทางเดินหายใจ หลอดลมอักเสบจะเป็นเรื้อรังได้ หากปราศจากการรักษา
อาการของโรคหืด อาจเป็นส่วนของของโรคปอดอุดกั้นซึ่งผู้มีประวัติเป็นโรคหืดจะมีความเสี่ยงต่อภาวะการเกิดโรคนี้ได้ โรคหืดทำให้เกิดการอับเสบของทางเดินหายใจ ซึ่งจะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกและปฏิกริยาตอบสนองที่รุงแรงกับสารที่สูดดมเข้าไป
โรคปอดอุดกั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต ซึ่งสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถรักษาได้ต่อปอด ทำให้ทางเดินหายใจอุดตันและหายใจลำบาก โดยผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะรุงแรงอาจไม่สามารถขึ้นบันไดหรือทำอาหารได้ และอาจต้องใช้ยาหรือออกซิเจนเสริม
ในปีค.ศ. 2014 ปอดอุดกั้นเรื้อรังเห็นสาเหตุหลักอันดับสาม ของการตายในสหรัฐ ฯ
อาการของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ปอดอุดกั้นเรื้อรังอาจมีเพียงบางอาการหรือมีอาการทั้งหมด ดังนี้
-
หายใจไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากออกแรง
-
มีอาการไอเรื้อรัง
-
ร่างกายผลิตเสมหะจำนวนมาก
-
หายใจเสียงดัง
-
หายใจลำบากและอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการในภาวะรุนแรงจะมีอาการ
-
ริมฝีปากและเล็บมือมีสีฟ้า
-
หายใจถี่ในขณะพูด
-
ความตื่นตัวลดลง
สำหรับผู้ที่มีอาการในภาวะรุนแรงควรเข้ารับการรักษาโดยทันที หากอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมักจะไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรค และกว่าร้อยละ 6.4 ของประชากรในสหรัฐ ฯ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค แต่ในความเป็นจริงอาจมีผู้ป่วยที่เป็นปอดอุดกั้นเรื้อรังมากกว่านี้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
ผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรังกว่าร้อยละ 75 พบว่าสูบหรือเคยสูบบุหรี่ และสาเหตุนอกเหนือจากการสูบบุหรี่มีดังนี้
-
ได้รับควันบุหรี่มือสอง
-
ได้รับมลพิษทางอากาศ ทั้งจากที่บ้านหรือในที่ทำงาน
-
โรคหืด
-
คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมาก่อน
หากโรคเกิดในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี มักจะมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ขาดสารอัลฟาวัน แอนติทริปซิน (alpha-1 antitrypsin)
ผู้ที่เป็นโรคหืดก็จะมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากเกิดการอักเสบและการบีบตัวของทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตามการรักษา สามารถลดความเสียหายที่เกิดจากโรคหืดได้
การวินิจฉัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
มีหลายเงื่อนไขที่เป็นสาเหตุของอาการไอและปัญหาด้านการหายใจ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นอาการเหล่านี้จะคงอยู่และจะทรุดลงเรื่อย ๆ สำหรับแพทย์แล้วเพื่อที่จะวินิจฉัยโรคมีดังนี้
-
พิจารณาถึงพฤติกรรมของผู้ป่วย รวมถึงประวัติการแพทย์ของครอบครัว
-
สอบถามถึงประวัติการสูบบุหรี่และการได้รับมลพิษอื่น ๆ
-
ตรวจร่างกาย เช่น ใช้หูฟังแพทย์ฟังการหายใจ
-
ตรวจสอบผลเพิ่มเติมดังนี้
-
ทดสอบการทำงานของปอด
-
วัดระดับออกซิเจนในเลือดแดง
-
ผลการสแกน เช่น X-Ray หรือ CT Scan
-
จากการทดสอบการทำงานของปอดสามารถวัดจำนวนและความเร็วของอากาศระหว่างการหายใจ โดยผู้ทดสอบจะต้องออกแรงเป่าลมไปยังท่อที่ต่อกับเครื่องมือที่เรียกว่าสไปโรมิเตอร์ ซึ่งแพทย์จะต้องแปลผล การทดสอบนี้สามารถแยกแยะเงื่อนไขอื่น ๆ ที่บ่งชี้ต่อการเกิดโรคได้
นอกจากนี้แพทย์อาจจะใช้แนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคปอด เพื่อประเมินอาการและความเสี่ยงที่จะแย่ลง
การรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ไม่มีทางรักษาผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นแต่มีการบำบัดหรือบรรเทาอาการเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ รวมถึงลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และชะลอการทรุดลงของโรคได้
การหยุดสูบบุหรี่
จะช่วยลดอาการของผู้ป่วยและชะลอการเกิดโรค รวมไปถึงการป้องกันการเกิดโรคด้วยเช่นกัน
หลีกเลี่ยงมลภาวะทางอากาศ
-
หลีกเลี่ยงควันไฟ
-
ไม่อยู่ใกล้ผู้สูบบุหรี่
-
หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการกระจายของสีสเปรย์หรือยาฆ่าแมลง
-
หากอยู่บ้านควรปิดหน้าต่างเมื่อมีมลภาวะทางอากาศ
-
สวมแมสเพื่อป้องกันมลภาวะทางอากาศ
การรักษาด้วยยา
-
การให้ยาขยายหลอดลม (Bronchodilator)
-
การให้ยาลดการอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์ (Corticosteroid)
-
อาจให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อของแบคทีเรียชนิดเฉียบพลัน เช่น หวัด และปอดบวม (Pneumonia)
การบำบัดด้วยออกซิเจนโดยให้ในระดับความเข้มข้นต่ำ
การผ่าตัด
ออกซิเจนบำบัด
หากปริมาณออกซิเจนในเลือดอยู่ในระดับต่ำ แพทย์อาจแนะนำการใส่อุปกรณ์ที่ช่วยให้การหายใจมีระดับออกซิเจนมากขึ้น เช่น การสวมหน้ากากออกซิเจนที่ครอบบริเวณจมูกและปากและมีสายเชื่อมต่อกับถังออกซิเจน ซึ่งผู้ป่วยสามารถมีไว้ใช้ที่บ้านได้
การรักษาโดยการผ่าตัด
การผ่าตัดเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งของผู้เป็นปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ได้แก่
-
การปลูกถ่ายปอดข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
-
การผ่าตัดเพื่อกำจัดเอาถุงลมที่เสียหายในปอดออก (Bullectomy)
-
การผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายออก หรือเรียกว่าการผ่าตัดลดปริมาตรปอด
-
การผ่าตัดเปลี่ยนวาล์วของหลอดลมในส่วนที่เสียหายหรือถูกทำลาย
ซึ่งในการผ่าตัดจำเป็นต้องมีแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
การดูแลร่างกายเพื่อควบคุมโรค
-
การฝึกหายใจ การฝึกหายใจจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนมีประสิทธิภาพ ทำให้กระบังลมขยาย มีเทคนิคมากมายในการฝึกการหายใจ เช่น เทคนิคการหายใจพร้อมจังหวะการลงเท้า (Belly breathing)
-
การฟื้นฟูสภาพปอด
การฟื้นฟูสภาพของปอดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคคลสามารถทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำแผนการฟื้นฟูสภาพปอด ดังนี้
-
เพิ่มขีดความสามารถต่อความทนในการออกกำลังกาย
-
ฝึกการหายใจ
-
ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร
-
ทำความรู้จักกับปอดให้มากขึ้น
-
เรียนรู้การใช้ยาและผลข้างเคียงจากยา
-
ศึกษาวิธีการที่ให้ร่างกายใช้พลังงานน้อยที่สุดเพื่อลดการหายใจ หรือเลี่ยงโอกาสที่จะทำให้เกิดการหายใจถี่มากขึ้น
-
หายเกิดภาวะเครียดหรือกดดัน การพบแพทย์จะสามารถช่วยจัดการได้ดีขึ้น
ภาวะแทรกซ้อน
-
อัตราการป่วยขึ้นอยู่กับการหายใจที่สั้นลง
-
สุขภาพจิต เช่น ซึมเศร้า
-
ภาวะสุขภาพโดยรวมแย่ลง
-
โรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน หรือโรคหืด
-
เกิดภาวะวิตกกังวล และหลงลืม ความจำแย่ลง
-
การทำงานลดลง ส่งผลต่อรายได้ที่ตามมา
-
แยกตัวจากสังคม
การเข้ารับคำปรึกษาโดยทีมสุขภาพจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถก้าวผ่านและจัดการกับปัญหาที่ตามมาของโรคได้ดีขึ้น
แนวโน้ม
โรคปอดอุดกั้นเป็นภาวะคุมคามชีวิต และความคาดหวังในการดำรงชีวิตของผู้ป่วย ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณความสามารถของปอดที่ถูกทำลาย หรือการสัมผัสควันบุหรี่
ผู้คนที่สูบบุหรี่และเป็นปอดอุดกั้นเรื้อรังระยะรุนแรง อาจจะมีชีวิตต่อไปอีกประมาณ 6ปี และลดลงเหลือเพียง 4ปี หากยังสูบบุหรี่
โรคปอดอุดกั้นเป็นโรคที่เมื่อเป็นแล้วรักษาไม่หาย คนที่สามารถลดการสูบบุหรี่ได้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ด้วย
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
-
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/copd/symptoms-causes/syc-20353679
-
https://www.nhs.uk/conditions/chronic-obstructive-pulmonary-disease-copd/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก