

พาสลีย์เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยจัดการกับโรคเบาหวาน เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และปรับปรุงสุขภาพกระดูก และยังส่งผลดีต่อการรักษาโรคไต ส่งเสริมให้หัวใจ และสมองแข็งแรง การเคี้ยวใบผักชี้ฝรั่งสักเล็กน้อยจะช่วยให้ลมหายใจสดชื่น หลายคนยังใช้พาสลีย์ดูแลผิวพรรณ และผมได้เช่นกัน
พาสลีย์คือ
พาสลีย์เป็นสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดมาจากภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของอิตาลี แอลจีเรีย และตูนิเซีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Petroselinum hortense และ Petroselinum crispum ใช้เป็นสมุนไพร ผักใบเขียว และเครื่องเทศทั้งในรูปแบบสดและแห้ง
การบริโภคพาสลีย์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเครื่องปรุงรส สลัด น้ำสต็อก และแซนวิช โดยสามารถใช้ได้ทั้งใบและรากเพื่อประกอบอาหาร ใบของพาสลีย์ยังแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ: ใบหยิกและใบเรียบหรือเรียกว่า Italian parsley
รสชาติของพาสลีย์นั้นเผ็ดร้อน มีรสขมเล็กน้อย และมีกลิ่นคล้ายดิน
รากพาสลีย์อุดมไปด้วยวิตามินซี และธาตุเหล็ก สามารถนำไปประกอบอาหารร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ เช่น แครอทและหัวผักกาด
คุณประโยชน์ต่อสุขภาพของพาสลีย์
เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
พาสลีย์อาจมีฟลาโวนอยด์หลายชนิด ทั้ง Luteolin Apigenin Lycopene Beta-carotene และ Alpha-carotene สารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดจะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ
สาร apigenin ที่พบในพืชอย่างพาสลีย์ และขึ้นฉ่ายฝรั่ง ยังส่งผลช่วยในการรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง
เพิ่มประสิทธิภาพการล้างไต
พาสลีย์จะช่วยให้ไตแข็งแรง โดยมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ และพาสลีย์ยังช่วยในการรักษาโรคนิ่วปัสสาวะได้ พาสลีย์ช่วยป้องกันระดับแคลเซียมในเลือดที่สูงเกินไป โดยพาสลีย์จะช่วยขับแคลเซียมส่วนเกินในปัสสาวะได้
นอกจากนี้พาสลีย์ยังช่วยบรรเทาอาการท้องอืด บวมน้ำ หรือการกักเก็บน้ำได้
ช่วยจัดการโรคเบาหวาน
พาสลีย์มีฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่า myricetin ซึ่งสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดความต้านทานต่ออินซูลินได้ และพาสลีย์ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวานในประเทศตุรกี สารสกัดจากพาสลีย์ยังช่วยบรรเทาอาการเบาหวานประเภทที่ 1 ได้
ช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูก
พาสลีย์อาจมีศักยภาพในการเสริมสร้างกระดูก สารสกัดจากพาสลีย์ช่วยรักษาปัญหาสุขภาพกระดูก สมุนไพรชนิดนี้ประกอบไปด้วยแคลเซียม เออร์กอสเตอรอล (สารตั้งต้นของวิตามินดี) และวิตามินซี ซึ่งช่วยให้กระดูกแข็งแรง
สารโพลีฟีนอลในพาสลีย์ยังช่วยบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกพรุนและโรคกระดูกเสื่อม พาสลีย์เป็นแหล่งที่ดีของโพลีฟีนอลที่เรียกว่า Apigenin ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการสร้างกระดูกได้
ปรับปรุงสุขภาพสมอง
สาร Apigenin ซึ่งเป็นสารฟลาโวนชนิดหนึ่งที่มีศักยภาพในพาสลีย์จะช่วยปรับปรุงการสร้างเซลล์ประสาท และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เช่น ความจำและการเรียนรู้ สารประกอบจากพืชชนิดนี้ยังอาจช่วยต่อต้านภาวะซึมเศร้า อัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสันได้
สารสกัดจากพาสลีย์ยังช่วยป้องกันการทำงานของไมโตคอนเดรีย จึงช่วยลดผลกระทบของพิษที่เกิดจากแคดเมียมต่อเนื้อเยื่อสมอง
ช่วยดูแลผิวพรรณและเส้นผม
ฝ้าคือปัญหาผิวที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ และอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ ซึ่งพาสลีย์จะช่วยบรรเทาปัญหาฝ้าที่ผิวหนังชั้นนอกได้
แป้งที่ทำจากเมล็ดของพาสลีย์ถูกใช้เป็นยารักษาเหา รังแค และอาการระคายเคืองที่หนังศีรษะ ช่วยเสริมสร้างเส้นผมที่อ่อนแอ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรง และช่วยยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผมได้ และช่วยเพิ่มการผลิตเคราติน และคอลลาเจน ที่ปกป้องเส้นผมจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
พาสลีย์สามารถปกป้องหัวใจได้ พบว่าพาสลีย์อาจมีประสิทธิภาพมากกว่า Сarob ในการลดระดับคอเลสเตอรอลที่สูงเกินไป
พาสลีย์จะช่วยแก้ไขปัญหาความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจได้
พาสลีย์มีสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยู่มากมาย ช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ส่งผลให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น สมุนไพรนี้มีวิตามินบี และกรดโฟลิกในระดับสูงที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาขึ้นได้
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก