ไวรัส Respiratory syncytial virus หรือ ไวรัส RSV คือการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจที่ส่งผลกระทบต่อปอดและทางเดินหายใจทั้งในผู้ใหญ่และในเด็ก
อาการป่วยนี้เกิดจากไวรัสชื่อ “sin-SISH-ul” อาการมีตั้งแต่น้อย ๆ เหมือนไข้หวัด บางคนจึงเรียกว่าไข้หวัด RSV ซึ่งบางครั้งมีความรุนแรงและต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
เคสที่รุนแรงส่วนมากนั้นเกิดขึ้นกับเด็กและผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง
ไวรัส RSV คืออะไร
เชื้อไวรัส RSV เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อง่ายมากและส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เด็กส่วนมากจะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ ในผู้ใหญ่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ไวรัสนี้ทำให้เกิดอาการทางระบบหายใจหลายอย่าง
อาการต่าง ๆ สามารถเป็นตั้งแต่ เล็กน้อยเหมือนหวัด อย่างไรก็ตาม หากมันส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จะทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน และ ปอดบวม หรือ ปอดอักเสบ
ใน 1 – 2 เปอร์เซนต์ของทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนที่ติดเชื้อจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
สาเหตุของไวรัส RSV
RSV นั้นสามาถติดต่อได้ง่ายผ่านสารคัดหลั่ง เมื่อผู้ที่ติดเชื้อไอ หรือ จาม สารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วยผ่านออกมาจากปากหรือจมูกไปสู่อากาศ
RSV สามารถมีชีวิตอยู่ข้างนอกร่างกายได้หลายชั่วโมง เช่น อยู่ตามโต๊ะ มือ และเสื้อผ้า ทำให้มันง่ายที่จะติดต่อจากคนสู่คน
ผู้ป่วยจะสามารถเเพร่เชื้อได้ประมาณ 3-8 วัน แต่ในเด็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอจะสามารถแพร่เชื้อได้ประมาณ 4 สัปดาห์ แม้ว่าอาการต่าง ๆ จะหายไปแล้วก็ตาม
ความเสี่ยงของการมีภาวะแทรกซ้อนหรืออาการรุนแรง มีดังนี้:
- ทารกที่เกิดก่อนกำหนด
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ใหญ่หรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด หรือ ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด (Asthma)
การติดเชื้อมักเกิดขึ้นกับเด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียน
ไวรัส RSV ในทารก
อาการเริ่มแรกของเด็กและทารก มีดังนี้:
- น้ำมูกไหล (Runny nose)
- เบื่ออาหาร
- ไอ และอาจหายใจมีเสียงวี๊ด ๆ
ทารกที่ยังเด็กมาก ๆ อาจแสดงอาการที่แตกต่างจากเด็กที่โตกว่า และ ผู้ใหญ่ ดังนี้:
- หงุดหงิด
- เคลื่อนหวน้อยลง
- เบื่ออาหาร
- ภาวะหยุดหายใจชั่วคราว หรือหยุดหายใจขณะหลับ Obstructive Sleep Apnea
RSV นั้นสามารถเป็นอันตรายต่อทารกได้ โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด
- ทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปีและมีปัญหาเกี่ยวกับ ปอด หัวใจ หรือประสาทและกล้ามเนื้อ
- เด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีที่ติดเชื้อส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง
อาการของไวรัส RSV
เมื่อติดเชื้อไวรัส RSV อาการนั้นจะแสดงให้เห็นปรมาณ 3 – 8 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส
เด็ก และ ทารกจะอาการดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ RSV ยังสามารถแพร่ได้นานกว่านั้นในเโกอายุต่ำกว่า 6 เดือน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
อาการต่าง ๆ มีดังนี้:
- น้ำมูกไหล
- ไอ
- จาม
- เจ็บคอ
- ปวดหัวน้อย ๆ
- เบื่ออาหาร
- มีไข้
- มีเสียงวี๊ด หายใจเร็ว หายใจลำบาก
- ไม่สบายตัว ขยับตัวน้อยลงในทารก
- หายใจสั้น ตื้น และเร็วในทารก
- อาการตัวเขียว (cyanosis)
อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้:
- ปอดบวม
- หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน
- การติดเชื้อในหูชั้นกลาง
- โรคหอบหืด
- การกลับไปติดเชื้อ RSV อีก
การกลับมาติดเชื้อใหม่นั้นเป็นเรื่องปกติเมื่อติดครั้งแรกแล้ว
สำหรับเคสรุนแรงต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อที่จะ:
- สังเกตอาการ โดยเฉพาะการหายใจ
- ให้ยาเพิ่มอีก ถ้าจำเป็น
Bronchiolitis หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน
หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันเป็นการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนล่างเนื่องจาก RSV ซึ่งปกติแล้วจะเกิดขึ้นกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
ทางเดินหายใจอักเสบและติดเชื้อ อาการเหล่านี้มักจะปรากฏขึ้น:
- มีไข้
- ไอแห้ง ไอต่อเนื่อง
- มีปัญหาในการป้อนอาหาร
- หายใจมีเสียงวี๊ด
เคสส่วนมากนั้นไม่รุนแรง แต่หากลูกของคุณหายใจหรือกินลำบาก มีไข้ เหนื่อย หรือ ไม่สบายตัว ควรพาไปพบแพทย์
การรักษาเชื้อไวรัส RSV
ในเคสที่มีอาการน้อย เป้าหมายของการรักษาจะเป็นการบรรเทาอาการ
การบรรเทาอาการต่าง ๆ มีดังนี้:
- ใช้เครื่องทำความชื้น
- ใช้หลอดดูดสารคัดหลั่งออก
- ให้ดื่มของเหลวเพิ่มขึ้น
- ให้อยู่ในท่านั่ง
- การใช้ยาหยอดจมูก
- ให้ยาลดไข้ (acetaminophen ) หากมีไข้
ในเคสที่รุนแรง การรักษาในโรงพยาบาลจะมีดังนี้:
- การให้ออกซิเจน
- การนำสารคัดหลั่งออกจากทางเดินหายใจ
- การใส่ท่อช่วยหายใจ ในกรณีที่ระบบหายใจล้มเหลว หรือ ภาวะหยุดหายใจรุนแรง
ในเคสที่พบได้น้อย อาจต้องใช้ยาพ่น ยาเหล่านี้มีคุณประโยชน์ที่ค่อนข้างจำกัดต่อการรักษาการติดเชื้อ RSV รวมไปถึง หลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน
ยาเหล่านี้ เช่น:
- ไรบาวิริน (Virazole) สำหรับต้านไวรัส
- เอพริเนฟริน ใช้สูดดมหรือฉีดเพื่อบรรเทาอาการ
การติดเชื้อ RSV มักดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะเป็นเคสรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/lung/rsv-in-babies
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/respiratory-syncytial-virus/symptoms-causes/syc-20353098
- https://www.cdc.gov/rsv/about/symptoms.html
- https://kidshealth.org/en/parents/rsv.html
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก