มีภาวะโรคมากมายที่สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอาเจียนเป็นเลือด จัดเป็นอาการฉุกเฉิน
อาเจียนเป็นเลือด (Vomiting Blood) หรือที่รู้จักกันในชื่อ hematemesis
สาเหตุที่ทำให้เกิดการอาเจียนเป็นเลือดนั้นอาจมาจากเรื่องง่ายๆตั้งแต่เลือดกำเดาไหล (Nose bleed) ไปจนถึงภาวะะเลือดออกในลำไส้ที่รุนแรง
การอาเจียนเป็นเลือดไม่ได้หมายถึงสายเลือดริ้วๆที่พบในอาเจียน แต่หมายถึงการอาเจียนเอาเลือดสีแดงสดหรือสีดำออกมาเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ ลักษณะของลิ่มเลือดเล็กๆสีน้ำตาลปนน้ำคล้ายกับผงกาแฟบด ที่ภาษาแพทย์เรียกว่า “coffee grounds” จะเกิดขึ้นเมื่อมีเลือดอยู่ในกระเพาะอาหารมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
การอาเจียนออกมาเป็นเลือดคืออาการที่ฉุกเฉิน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม
ในบทความนี้จะมีข้อมูลของสาเหตุที่อาจทำให้เกิดการอาเจียนเป็นเลือดและรู้วิธีระบุโรคและการรักษา
อาการอาเจียนเป็นเลือด
สีและความข้นของเลือดมีหลายแบบขึ้นอยู่กับสาเหตุและตำแหน่งของเลือดในร่างกาย เลือดอาจมีตั้งแต่สีแดงสดไปจนถึงสีคล้ำคล้ายสีกาแฟบด
ปัจจัยที่ทำให้เลือดออกมีหลายอย่าง หากประสบกับอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการร่วมกับการอาเจียนเป็นเลือด
อาการต่อไปนี้เป็นอาการที่อาจทำให้เกิดภาวะช็อคได้:
- มึนงง รู้สึกหน้ามืดหรือเป็นลม
- สับสน
- ตัวเย็น ผิวซีด
- หัวใจเต้นเร็ว
- วิตกกังวลหรือกระวนกระวาย
- รูม่านตาขยาย
- การมองไม่ชัด เบลอ
- คลื่นไส้
- อ่อนเพลีย
- หายใจถี่
- ปัสสาวะน้อยลง
ควรรีบไปห้องฉุกเฉินทันทีหากมีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนเป็นเลือดจำนวนมาก มีอาเจียนหลายครั้ง หรืออาการน่ากังวลอื่นๆ
สาเหตุอาเจียนเป็นเลือด
ปัญหาทางสุขภาพหลายอย่างที่อาจเป็นต้นเหตุให้ผู้ป่วยเกิดการอาเจียนเป็นเลือด เช่น:
-
การอาเจียนอย่างรุนแรง
-
เยื่อบุกระเพาะอาหารฉีกขาด ระคายเคืองหรือเสียหาย
-
หลอดเลือดดำในท่ออาหารหรือลำไส้มีการขยายตัว
-
มีเนื้องอกและแผลในกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร
-
ลำไส้ส่วนบนเสียหายจากกัมมันตภาพรังสี
-
เกิดการติดเชื้อ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ หรือติดเชื้อ Helicobacter pylori (H. pylori)
-
มีใช้ยาเป็นประจำ เช่นยาแอสไพริน ยากลุ่มเอ็นเสด หรือยาเจือจางเลือด
-
การได้รับสารพิษ
-
ตั้งครรภ์ เป็นภาวะแทรกซ้อนจากอาการแพ้ท้องและอาเจียนประจำ
โรคเฉพาะบางโรคที่อาจนำไปสู่การอาเจียนเป็นเลือด เช่น:
-
โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ
-
โรคหลอดเลือดในลำไส้
-
ท่ออาหาร ลำไส้หรือตับอ่อนอักเสบ
-
โรคเกี่ยวกับตับ เช่นตับวายเฉียบพลันและตับแข็ง
-
โรค Dieulafoy’s lesion คือโรคที่หลอดเลือดแดงยื่นออกมาจากผนังลำไส้
-
กลุ่มอาการมัลลอรีย์-ไวสส์ฉีกขาด, ท่ออาหารฉีกขาดที่เกิดขึ้นเพราะแรงดันที่สูงมากขึ้นจากการอาเจียนหรือไอ
-
ภาวะความดันของระบบหลอดเลือดพอร์ทัลสูงขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากตับแข็งหรือโรคตับ
-
ความผิดปกติในเลือด เช่นจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ โรคเลือดไหลไม่หยุด โรคโลหิตจางหรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
โรคอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการอาเจียนเป็นเลือดปริมาณมากในเด็กทารกและเด็กเล็กคือ:
-
โรคความพิการแต่กำเนิด
-
การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
-
ขาดวิตามินเค
-
ภูมิแพ้นม
-
กลืนเลือดหรือวัตถุแปลกปลอม
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องประสบกับการอาเจียนเป็นเลือดอาจรวมไปถึงกลุ่มคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
การดื่มแอลกอฮอล์และอาเจียนเป็นเลือด
การอาเจียนเป็นเลือดอาจเป็นสัญญานของภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่บริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป คือ:
-
ระบบทางเดินอาหารฉีกขาด: เมื่อเกิดแรงดันเพิ่มมากขึ้นในท่ออาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้จากการอาเจียนรุนแรงจนทำให้ลำไส้เกิดการฉีกขาด ในบางรายอาจทำให้เสียชีวิตได้ อาจเกิดอาการร่วมบางอย่างได้เช่นอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงและเฉียบพลันซึ่งอาจเจ็บแผ่ไปถึงแผ่นหลัง มีเหงื่อออก หายใจสั้นถี่และปวดท้อง
-
ตับแข็ง: คนที่ดื่มเหล้าบ่อยและมากเกินไปอาจทำให้ตับเกิดแผล เช่นเดียวกับโรคอื่นๆ หลอดเลือดอาจแตก เป็นสาเหตุให้มีเลือดในอาเจียนมาก ภาวะอ่อนแรง หน้ามืดและถ่ายเป็นเลือดก็อาจเป็นอาการหนึ่งของภาวะอาเจียนเป็นเลือด
-
แผล: อาจเกิดมาจากกรดที่อยู่ในแอลกอฮอล์ สามารถนำไปสู่อาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและทำให้เกิดแผลต่อไปได้ สัญญานเตือนว่าเกิดแผลในกระเพาะอาหารเช่นเลือดออกในลำไส้อย่างรุนแรง อุจจาระเป็นสีแดงคล้ำหรือดำ ปวดท้องหรือเจ็บบริเวณหน้าอกส่วนล่างสุด
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโดยดูรายละเอียดจากประวัติ การตรวจร่างกายและอาจรวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีรังสีร่วมรักษา เช่นซีทีสแกน การเอกซเรย์หรือการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร การตรวจด้วยวิธีเหล่านี้จะสามารถช่วยให้ทีมแพทย์ค้นเจอแหล่งต้นตอที่มาของการมีเลือดออกได้
การรักษาด้วยวิธีรังสีร่วมรักษายังรวมไปถึงการใช้ lighted scope ในการตรวจลำไส้ส่วนบนเพื่อหาสาเหตุที่เลือดออก
บางครั้งอาการอาเจียนเป็นเลือดอาจเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้เช่นกัน ดังนั้นจึงอาจต้องมีการนำเลือดไปตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค รวมไปถึงวิเคราะห์ตัวอย่างของอุจจาระด้วย
ในรายที่แพทย์สงสัยว่าหลอดเลือดมีเลือดออก แพทย์อาจสั่งตรวจวินิจฉัยหลอดเลือดด้วย
การตรวจวินิจฉัยหลอดเลือดโดยใช้สายสวนเล็กๆเข้าไปในเส้นเลือดที่บริเวณขาหนีบ โดยไม่ต้องใช้ยาสลบ
หลังจากนั้นก็ฉีดสารทึบรังสีที่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบเข้าไปเพื่อให้เห็นภาพแม่นยำมากขึ้น การเอกซเรย์จะสามารถช่วยให้แพทย์ตรวจเช็คการอุดตันได้ดี
การรักษาอาการอาจเจียนเป็นเลือด
การรักษาอาการอาเจียนเป็นเลือดอาจใช้ก่ารรักษาด้วยยาและการผ่าตัดร่วมกัน
ในรายที่มีอาการเลือดออกมากอย่างรุนแรง อาจต้องมีการให้เลือดถ้าถึงขั้นที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ แพทย์อาจต้องทำการช่วยชีวิตเร่งด่วนด้วยการให้เลือดทดแทนส่วนที่หายไป
การรักษาอาการอาเจียนเป็นเลือดขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค มีหลายวิธีในการหยุดเลือดออกภายใน รวมไปถึงการใช้เครื่องมือที่มีกล้องเล็กๆส่งเข้าไปปิดแผลด้านใน
การเฝ้าระวัง
การเฝ้าระวังสำหรับอาการอาเจียนเป็นเลือดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างรวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเลือดออกและขึ้นกับผู้ป่วยไปรับการรักษาได้รวดเร็วแค่ไหน
ทุกคนที่อาเจียนเป็นเลือดควรรีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินและรีบทำการรักษาทันที
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก