เมล็ดฟักทอง (Pumpkin Seeds)

เมล็ดฟักทอง (Pumpkin Seeds)

25.09
5051
0

Pumpkin seed คืออะไร

เมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed) เป็นเมล็ดที่อยู่ภายในไส้ฟักทองซึ่งเป็นพืชมีเถาชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมล็ดฟักทองจะมีเปลือกสีขาวหรือขาวอมเหลือง ส่วนด้านในจะเป็นเมล็ดแบนรีมีลักษณะเป็นรูปไข่มีสีเขียว เมล็ดให้พลังงานที่มาจากไขมันและโปรตีนเป็นหลัก เป็นแหล่งสารอาหาร ได้แก่ แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 วิตามินเค ไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต แมงกานีส และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เนื้อในของเมล็ดฟักทองมีรสชาติหวานหนึบๆ สามารถกินได้ทั้งเปลือกและแบบไม่มีเปลือก

สารอาหารสำคัญในเมล็ดผักทอง

แมกนีเซียม

แมกนีเซียมในเมล็ดฟักทอง คือ แร่ธาตุชั้นดีในการเสริมความแข็งแรงของมวลกระดูกให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน  โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทอง

นอกจากนี้ แร่ธาตุแมกนีเซียมยังมีส่วนช่วยปรับภาวะอารมณ์ของคุณให้คงที่ ทำให้ผู้ที่มีปัญหานอนหลับยากสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น

  • สารต้านอนุมูลอิสระ

ในเมล็ดฟักทองประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารแคโรทีนอยด์ และวิตามินอี จึงซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ ลดการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา

  • กรดไขมันโอเมก้า 3

เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตันและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหัวใจวาย  โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหลอดเลือดแข็ง และภาวะอื่นๆ เกี่ยวกับหัวใจที่อันตรายถึงชีวิตได้

นอกจากนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังช่วยบำรุงระบบไหลเวียนเลือด ผ่านการเสริมระบบการทำงานของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด (Endothelial function)

ประโยชน์ของ Pumpkin seed

  • ช่วยทำให้อารมณ์ดี
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยทำให้การทำงานของระบบปัสสาวะดีขึ้น
  • ช่วยป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • ช่วยป้องกันการโรคนิ่ว
  • มีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืด
  • ช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  • ช่วยเพิ่มจำนวนตัวอสุจิ
  • น้ำมันจากเมล็ดฟักทองสามารถบำรุงระบบประสาท
  • ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น
  • ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ
  • ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • บำรุงผิวพรรณ
  • บำรุงระบบย่อยอาหาร
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • มีประโยชน์ต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
  • ช่วยนอนหลับดีขึ้น
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ
  • สามารถลดการอักเสบ
  • ปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย
  • น้ำมันเมล็ดฟักทองสามารถลดการอักเสบในหนูที่เป็นโรคข้ออักเสบ
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปอด
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งลำไส้
  • ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
  • ช่วยในการการสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูก
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ
  • ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • ช่วยลดค่าความดันโลหิตไดแอสโตลิค (Diastolic blood pressure) 
  • ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี หรือไขมันเอชดีแอล (HDL cholesterol) 16% ให้แก่ร่างกาย
  • เป็นยาระบายที่ดี
  • เส้นใยของเมล็ดฟักทองช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร
  • น้ำมันเมล็ดฟักทองสามารถใช้ทำเครื่องสำอางค์ได้

Pumpkin Seeds

ข้อควรระวังในการรับประทาน Pumpkin seed

  • เมล็ดฟักทองอาจทำให้ยาขับปัสสาวะ (Diuretic Drugs) ผู้ป่วยโรคไต ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดีพอจนไม่สามารถปัสสาวะได้ตามปกติ
  • เมล็ดฟักทองอาจทำให้ยาของผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ดี
  • ไม่ควรรับประทานฟักทองขณะท้องว่าง เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดเกร็งท้องหรือปวดท้องได้ เพราะในเมล็ดฟักทองมีน้ำมันที่มีไขมันสูงมาก
  • หากปรุงอาหารด้วยเมล็ดฟักทองโดยใช้ความร้อนสูงเกินอาจทำให้วิตามินบี วิตามินซี ถูกทำลายไป
  • เด็กวัยอนุบาลไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทอง เพราะอาจส่งผลให้ปวดท้อง อาเจียน หรือท้องเสียได้
  • เกิดผื่นลมพิษ ปวดหัว ปากและคอบวม หายใจไม่สะดวก ซึ่งเป็นผลจากการแพ้เมล็ดฟักทอง
  • ในผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและไม่คงที่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดฟักทอง เพราะเมล็ดฟักทองอาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการรับประทานเมล็ดฟักทอง
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดฟักทอง เพราะเมล็ดฟักทองสามารถทำให้ระดับความดันโลหิตต่ำจนเป็นอันตรายได้
  • ผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักทองเพื่อลดน้ำหนัก
    เพราะเมล็ดฟักทองมีไขมันสูง

หากนำเมล็ดฟักทองมาใช้เป็นยาควรใช้อย่างไร

  • ใช้ในรูปแบบดิบหรือเมล็ดฟักทองสดไม่ผ่านการทำให้สุก
  • ใช้ในรูปแบบการอบแห้งโดยไม่ใช้อุณหภูมิสูง
  • ใช้ในรูปแบบของการแช่น้ำโดยสัดส่วนคือเมล็ดบดสองช้อนผสมกับน้ำ 750 มิลลิลิตร
  • ใช้ในรูปแบบเมล็ดบดผสมกับน้ำผึ้ง

ผู้ที่ไม่ควรรับประทาน Pumpkin seed

  • ผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากอาการกำเริบของโรคกระเพาะอาหารหรือลำไส้
  • ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกาต์ และมีหินและทรายในไตกระเพาะปัสสาวะและอุลตร้า
  • เด็กเล็กช่วงวัยอนุบาล
  • หญิงตั้งครรภ์
  • คนที่มีภาวะอ้วน

สารอาหารของ Pumpkin seed

ในเมล็ดฟักทอง 100 กรัม สามารถให้พลังงานถึง 574 กิโลแคลอรี่ และเมล็ดฟักทองอบแห้งให้พลังงาน 559  กิโลแคลอรี่ โดยให้สารอาหาร ดังนี้

  • โปรตีน 30 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม
  • ไขมัน 49 กรัม
  • น้ำตาล 1.4 กรัม
  • โซเดียม 7 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 46  มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 809  มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 8.82  มิลลิกรัม
  • ไฟเบอร์ 5 กรัม
Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *