ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) จะทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจซ้ำ ๆ หลายครั้งในระหว่างที่กำลังนอนหลับ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้แก่ ง่วงนอนตอนกลางวัน กรนเสียงดัง และนอนไม่หลับ
คนส่วนมากที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจะหยุดหายใจขณะหลับ อาการนี้เกิดจากการอุดตันทางเดินหายใจส่วนบน และมีอีกลักษณะอาการที่เรียกว่าอีกประเภทหนึ่งคือ การหยุดหายใจเนื่องจากการทำงานของสมองส่วนกลาง (CSA) เกิดจากปัญหาการส่งสัญญาณในระบบประสาท
เมื่อทางเดินหายใจปิดลงหรือมีสัญญาณค้าง ผู้ป่วยจะหยุดหายใจ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ แต่จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ระหว่างที่กำลังนอนหลับ เมื่อพวกเขาหายใจอีกครั้งพวกเขาอาจกรน หายใจเข้าลึก ๆ หรือตื่นนอนขึ้นมาพร้อมความรู้สึกหายใจไม่ออก หายใจติดขัดหรือสำลัก
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ป่วยรู้สึกง่วงซึม เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ หรือทำงาน
สาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการอุดตัน หรือทางเดินหายใจไม่ทำงานนั้น ประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้:
กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในปากและลำคอหย่อน
อาการคัดจมูก
เนื้อเยื่อหนาขึ้น และมีไขมันสะสมรอบ ๆ ทางเดินหายใจ
ปัญหาทางระบบประสาท
สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจาก:
ปัจจัยทางพันธุกรรม
ปัญหาต่อมไทรอยด์
หัวใจ หรือไตวาย
ต่อมทอนซิลโต หรือบวม
ทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ แต่มักหายไปเองเมื่อโตขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ปัจจัยเสี่ยงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ได้แก่ :
อายุที่มากขึ้น
โรคอ้วน
โรคภูมิแพ้
บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่
การตั้งครรภ์
ปัญหาต่อมไทรอยด์ และฮอร์โมน
ขนาดของลำคอใหญ่
ต่อมทอนซิลขนาดใหญ่ หรือโรคเนื้องอกในจมูก
ประวัติครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
คางสั้น หรือฟันเหยินมาก
การศึกษาในปี 2020 พบว่าการอักเสบอาจมีส่วนที่ทำให้เกิดการหยุดหายใจขณะหลับ
ผู้เชี่ยวชาญพบความสัมพันธ์ของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากระบบประสาท กับสิ่งต่อไปนี้:
โรคที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่นโรคไข้สมองอักเสบ
ความผิดปกติของระบบประสาท และไต
ภาวะที่ต้องปรับตัวให้ชินกับความสูง
การใช้โอพิออย และยาซึมเศร้าอื่น ๆ
เมื่อขึ้นที่สูงอย่างรวดเร็ว
การใช้ยาบรรเทาอาการปวด
อาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ผู้ป่วยที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับอาจไม่รู้ถึงอาการของตนเอง แต่อีกผู้อื่นจะสามารถสังเกตเห็นอาการของผู้ป่วยได้ ประกอบด้วย:
หยุดหายใจชั่วขณะ ตามด้วยเสียงหายใจดัง
อ้าปากค้างเพื่อหายใจ
กรนเสียงดัง
ตัวผู้ป่วยก็สามารถสังเกตอาการตนเองได้ว่ามีรายละเอียดดังนี้ :
ความเหนื่อยล้า
หายใจติดขัดเวลานอน
รู้สึกพักผ่อนไม่พอ หรือนอนไม่หลับ
ความยากลำบากในการรวบรวมสมาธิ
รู้สึกตัวตื่นหลายครั้งเพื่อปัสสาวะในแต่ละคืน
ตื่นขึ้นด้วยอาการปากแห้ง หรือเจ็บคอ
ความหงุดหงิด
ลดอารมณ์ และสมรรถภาพทางเพศ
ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่ออาการต่อไปนี้:
อาการหอบหืด
หัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว
โรคมะเร็ง
โรคไตเรื้อรัง
ความสามารถในการรวบรวมสมาธิ ปัญหาเกี่ยวกับความจำและการเรียนรู้ต่าง ๆ
โรคสมองเสื่อม (Dimentia)
ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด เนื่องจากปริมาณออกซิเจนลดลง
ภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์
ความผิดปกติของดวงตา เช่นต้อหิน
ความผิดปกติในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน รวมถึงโรคเบาหวานประเภท 2 และความดันโลหิตสูง
โรคหลอดเลือดสมอง
การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การรักษามีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้หายใจเป็นปกติในระหว่างการนอนหลับ และแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เผชิญอยู่ ตัวเลือกจะขึ้นกับสาเหตุ และความรุนแรงของอาการ
การรักษาด้วยการปรับวิถีการใช้ชีวิต
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมีความสำคัญที่ช่วยปรับการหายใจให้กลับมาเป็นปกติ และเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญต่อการรักษา ได้แก่ :
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
การปรับนิสัยการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพ
การควบคุมปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์
เลิกสูบบุหรี่
การควบคุมน้ำหนัก
นอนในท่าตะแคง
การรักษาด้วยวิธีทางเลือก
การรักษาด้วยวิธีทางเลือกอื่น ๆ ได้แก่ :
การบำบัดด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวกอย่างต่อเนื่อง (CPAP)
แนวทางการรักษาที่สำคัญสำหรับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คือการช่วยให้ทางเดินหายใจเปิด โดยการให้อากาศที่มีแรงดันบวกคงที่ผ่านหน้ากาก
หากผู้ป่วยมีปัญหาในการใช้ CPAP ให้หยุดทำการรักษาก่อนจะได้รับผลข้างเคียง อย่างไรก็ตามมีมาตรการที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้อุปกรณ์ได้สะดวกขึ้น และระยะเวลาในการปรับตัวราบรื่นขึ้น
ผู้ป่วยบุคคลสามารถปรับหน้ากาก และตั้งค่าอุปกรณ์ การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศที่ไหลผ่านหน้ากากสามารถบรรเทาอาการระคายเคืองที่จมูกได้
การรักษาด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดสามารถขยายทางเดินหายใจในผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ การผ่าตัดจะช่วยให้เนื้อเยื่อที่อุดตันเรียบ หรือหดตัวได้ หรือผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อส่วนเกิน หรือต่อมทอนซิลที่โตออกไป
ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล โดยพิจารณลักษณะอาการเพื่อกำหนดวิธีการผ่าตัด
การรักษาด้วยอุปกรณ์ปรับตำแหน่งขากรรไกรล่าง (MRD)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ภายในช่องปากที่ต้องสั่งทำเป็นพิเศษและมีขนาดพอเหมาะเป็นรายบุคคล เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจระดับไม่รุนแรง หรือปานกลาง
อุปกรณ์นี้จะจัดขากรรไกรให้อยู่ในตำแหน่งเคลื่อนไปข้างหน้าระหว่างนอนหลับ เพื่อขยายพื้นที่ด้านหลังลิ้น วิธีนี้ช่วยให้ทางเดินหายใจส่วนบนเปิด ป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และการกรน
ผลข้างเคียงของ MRD อาจทำให้รู้สึกปวดกราม หรือฟัน หากใช้งานอย่างรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อข้อต่อได้ชั่วคราว
การรักษาด้วยยา
ยาบางชนิดสามารถรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากการทำงานของระบบประสาทได้ แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ตัวอย่างยาที่ใช้ ได้แก่ :
อะซิตาโซลาไมด์
โซลพิเดม
ไตรอะโซแลม
อย่างไรก็ตามยาเหล่านี้อาจมีผลเสียที่รุนแรง และอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยทุกคน
สรุปภาพรวมภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาทั่วไปที่ทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจในระหว่างกำลังนอนหลับ อาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้า และความยากลำบากในการรวบรวมสมาธิ และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสภาพทั่ว ๆ ไปของร่างกาย
บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าตนเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แต่คนที่อยู่ด้วยกันจะสังเกตเห็น
หากพบว่าตนเองมีอาการง่วงนอนตอนกลางวันควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และกำหนดแนวทางการรักษาต่อไป
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/obstructive-sleep-apnea/symptoms-causes/syc-20352090
https://www.healthline.com/health/sleep/obstructive-sleep-apnea
https://www.webmd.com/sleep-disorders/sleep-apnea/understanding-obstructive-sleep-apnea-syndrome
https://www.sleepfoundation.org/sleep-apnea
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก