กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

20.02
4526
0

กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) คือการบวมและอักเสบของกล่องเสียง อาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง แต่โดยส่วนใหญ่อาการจะเกิดขึ้นชั่วคราวและไม่มีผลร้ายแรง สามารถหายเองโดยไม่ต้องรักษาภายใน 7 วัน

กล่องเสียงคือตำแหน่งของสายเสียง มีความสำคัญต่อกระบวนการหายใจ การกลืน และการพูดคุย สายเสียงคือเยื่อเมือกสองพับเล็ก ๆ ที่หุ้มกระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อสั่นสะเทือนจะทำให้เกิดเสียง

สาเหตุของกล่องเสียงอักเสบ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล่องเสียงอักเสบ กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน: สาเหตุส่วนมากของโรคกล่องเสียงอักเสบคือการติดเชื้อไวรัส คล้ายกับสาเหตุของโรคไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ การใช้เสียงมากเกินไปก็ทำให้กล่องเสียงอักเสบได้ ตัวอย่างเช่น การเปล่งเสียงดัง หรือตะโกนมากเกินไป

มีกรณีที่พบได้ยากอย่างอาการของโรคคอตีบ หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย

กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง: เเกิดจากสาเหตุดังนี้

  • กรดไหลย้อนเป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารและสารอาหารถูกส่งกลับเข้าไปในลำคอ

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต

  • ไซนัสอักเสบเรื้อรัง

  • ไอมากเกินไป

  • การสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองจากการหายใจ เช่น สารก่อภูมิแพ้ หรือควันพิษ

  • การดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ

  • การใช้เสียงที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้เสียงมากเกินไป

  • การสูบบุหรี่รวมถึงได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น

  • การใช้ยาสเตียรอยด์ด้วยการสูดดม เช่น ยารักษาอาการหอบหืด

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคภาวะหัวใจล้มเหลว

  • โรคเบาหวาน (โดยเฉพาะโรคเบาหวานประเภท 2)

  • โรคอ้วน

  • การสูบบุหรี่

  • โรคโลหิตจาง

  • ต่อมไทรอยด์มีปัญหา เช่น ต่อมไทรอยด์สร้าง และปล่อยฮอร์โมนออกมามากเกินไป หรือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างและปล่อยฮอร์โมนออกมาน้อยเกินไป

  • โรคลูปัส หรือโรคภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง

  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือการติดเชื้อของกล้ามเนื้อหัวใจ มีสาเหตุจากไวรัส และอาการของโรคนี้สามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจด้านซ้ายล้มเหลวได้

  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือผิดปกติ – การเต้นของหัวใจที่เร็วเกินไปจะส่งผลให้หัวใจอ่อนแอลง ส่วนการเต้นของหัวใจที่ช้าลงจะลดอัตราการไหลเวียนของเลือดจนทำให้หัวใจล้มเหลวได้

  • ภาวะหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดปกติ และถี่เกินไป

  • Hemochromatosis เป็นภาวะที่ร่างกายมีธาตุเหล็กสะสมในเนื้อเยื่อสูงเกินไป

  • Amyloidosis เป็นภาวะที่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายเกิดการสะสมของโปรตีนในระดับเซลล์ที่ผิดปกติ

อาการของกล่องเสียงอักเสบ

อาการมีดังต่อไปนี้

อาการในผู้ใหญ่ :

  • เสียงแหบ

  • มีปัญหาในการพูด

  • ปวดคอ

  • ไข้ต่ำ ๆ

  • ไอเรื้อรัง

  • ไอกระแอมบ่อย ๆ

Laryngitis

อาการอาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2-3 วันถัดไป หากมีอาการนานกว่า 3 สัปดาห์มีแนวโน้มว่าอาการจะเรื้อรัง จึงควรวินิจฉัยเพื่อรับการรักษา

โรคกล่องเสียงอักเสบมักเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ อย่างต่อมทอนซิลอักเสบ ลำคอติดเชื้อในลำคอ โรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้มีอาการดังต่อไปนี้:

  • ปวดหัว

  • ต่อมน้ำลายบวม

  • อาการน้ำมูกไหล

  • รู้สึกปวดขณะกลืนน้ำหรืออาหาร

  • รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่สบายตัว

อาการอาจหายไปเองภายใน 7 วัน แต่หากมีอาการนานกว่านั้นควรรีบไปพบแพทย์

อาการในเด็ก : อาการของโรคกล่องเสียงอักเสบในเด็กอาจแตกต่างจากอาการในผู้ใหญ่ อาการนี้มักทำให้เสียงแหบ ไอแห้ง ๆ และมีไข้และอาจแสดงว่ามีอาการของโรคกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน

โรคกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลันเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่พบบ่อยในเด็ก แม้ว่าจะรักษาได้ง่าย แต่อาจมีกรณีที่รุนแรงจนต้องให้แพทย์ดูแล

แนะนำให้พาเด็กไปพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้:

  • หายใจหรือกลืนอาหารลำบาก

  • มีไข้สูงกว่า 39.4 °เซลเซียส

  • น้ำลายไหล

  • เสียงหายใจดังและมีเสียงดังวี้ดในขณะที่หายใจเข้า

อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงอาการลิ้นปี่อักเสบ การอักเสบของเนื้อเยื่อรอบหลอดลม หรือคอหอย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถพัฒนาเกิดการอักเสบเฉียบพลันได้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้

การรักษากล่องเสียงอักเสบ

กรณีกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน การรักษาที่ดีที่สุดคือการพักผ่อน และดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอาการได้

การรักษาด้วยตนเอง

โดยปกติแพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนเพื่อบรรเทาอาการกล่องเสียงอักเสบ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยลดการใช้งานกล่องเสียง หลีกเลี่ยงการพูดคุย ร้องเพลง หรือใช้เสียง การกระซิบอาจทำให้การใช้เสียงดูลดน้อยลง แต่ในความเป็นจริงแล้วทำให้สายเสียงต้องทำงานมากขึ้นกว่าการใช้เสียงตามปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงการกระซิบ

วิธีการรักษาด้วยตนเองอย่างง่าย ๆ ได้แก่ :

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาหดหลอดเลือด เพราะจะทำให้คอแห้ง

  • ไม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อับชื้น

  • ใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม Acetaminophens เช่นพาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟนเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด

  • หลีกเลี่ยงการสูดดมสารระคายเคือง อย่างควันบุหรี่

  • ดื่มของเหลวมาก ๆ

การรักษาด้วยยา

แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อบรรเทาอาการกล่องเสียงอักเสบในกรณีที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่วิธีการรักษานี้อาจมีผลข้างเคียงมากกว่าผลดี

แพทย์อาจให้คอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบของสายเสียงในกรณีที่อาการรุนแรงหรือเฉียบพลัน มักวินิจฉัยใช้กับผู้ที่มีอาชีพใช้เสียง อย่างนักร้องอาชีพหรือนักพูด ทารกที่มีอาการรุนแรงก็สามารถรับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ได้

โรคกล่องเสียงอักเสบเรื้อรังต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุของการอักเสบจะเป็นตัวกำหนดแนวทางการรักษา หากกล่องเสียงอักเสบเกิดจากภาวะอื่น ๆ เช่นกรดไหลย้อนหรือไซนัสอักเสบการรักษาอาการที่เกี่ยวข้องจะช่วยรักษาอาการกล่องเสียงอักเสบได้

การรักษากล่องเสียงอักเสบให้ได้ผล อาจส่งผลต่อวิถีการใช้ชีวิตประจำวันได้ ตัวอย่างเช่นกรณีที่อาชีพร้องเพลงเป็นสาเหตุของโรคกล่องเสียงอักเสบ ผู้ป่วยอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการร้องเพลง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ และสารระคายเคืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการผ่าตัดในกรณีที่เส้นเสียงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากการเติบโตของติ่งหรือก้อนเนื้อ

สรุปภาพรวมกล่องเสียงอักเสบ

การติดเชื้อไวรัส เช่น หวัดนับเป็นสาเหตุสำคัญของโรคกล่องเสียงอักเสบ กล่องเสียงอักเสบเรื้อรังมักเกิดจากปัจจัยการดำเนินชีวิต เช่นการได้รับสารระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง

เด็กที่เป็นโรคกล่องเสียงอักเสบสามารถเกิดโรคทางเดินหายใจอื่น ที่เรียกว่าโรคกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบเฉียบพลันได้

แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติมในกรณีที่มีอาการรุนแรง อย่างการส่องกล้องดูกล่องเสียง การรักษากล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันที่ดีที่สุดคือการดูแลตนเองและพักผ่อนให้เพียงพอ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *